Saturday, April 30, 2016

เรื่องเล่า “เมื่อภูมิพล ขู่นายกทักษิณ ว่า......"

ตอนที่ 172

"ฝากไปบอกเขาด้วยว่า ให้เลือกเอาเองว่า ตอนจบอยากจะเป็นแบบ ปรีดา หรือ ขนอม"

นี่เป็นประโยคล่าสุดที่เราได้ทราบว่า ลุงได้พูดออกมากับคนรอบข้าง หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงของลุงมานาน
หลังจากที่ช่วงหลังมานี้ แมวได้ทำอะไรที่ดูเหมือนจะขัดลูกหูลูกตาลุง และป้า เป็นอย่างมาก นี่เราก็ไม่รู้ว่า แมวแกล้งไม่รู้หรือ รู้แล้ว เพราะครอบครัวลุง โดยเฉพาะ หัวหน้าขบวน ที่นอกจากจะตาบอดแล้ว ลุงยังมีนิสัยตาร้อนผ่าวถ้าเห็นใครที่เก่งเกินหน้าเกินตา

เรือ่งของแมว ที่ลุงเริ่มจะไม่ค่อยจะพอใจไล่มาตั้งแต่ เมื่อตอนที่น้ำท่วมหนัก ลุงหาว่าแมวขโมยซีน ไมว่าจะเป็นยอดเงินบริจาคที่มากกว่า หรือของในถุงยังชีพที่ดีกว่า ขนาดถุงยังชีพลุงแกยังไม่ยอมปล่อยวาง

ลุงบ่นกับคนรอบข้างว่า แมวตั้งใจหักหน้าให้ลุงต้องเสียหน้า แต่ก็ยอมรับว่า ถุงของแมวนั้นดูดีกว่าจริงๆ เพราะที่เราเห็น ถุงของแมวจะเป็นถุงปุ๋ยที่กันน้ำ ถุงใหญ่กว่า
แต่ของลุง ก็เป็นอย่างที่เห็น เป็นถุงที่มีแต่โลโก้ แล้วปลากระป๋องที่แจก ดันไม่ยอมแจกแบบที่ไม่ต้องใช้ที่เปิด แล้วน้ำท่วมลูกจ้างจะไปหาที่เปิดมาจากไหนลุงถาม ที่ปรึกษาว่า ภาคต่อของเมียแมว ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ถ้ายังไม่เสร็จก็เรียบๆ ให้เสร็จ คราวนี้ขอไม่ต่ำกว่าของ แมว

นี่เราก็ไม่รู้ว่าลุงพูดจริง หรือแค่บ่นไปตามประสาคนแก่ขี้อิจฉา
แต่ที่เรายังไม่ค่อนจะเข้าใจในตอนแรก ก็คือ ว่า ทำไมลุงถึงต้องให้แมวเลือกว่า แมวอยากเลือกที่จะเป็นไหน ปรีดา หรือ ขนอม

เรื่อง ปรีดี ก็พอที่จะเข้าใจอยู่ เพราะลุงแกไม่ชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ขนาดจะเอาขี้เถ้ากลับมา ลุงก็สวมบทเป็นจระเข้ขวางคลอง
คิดไปคิดมา แต่พอที่ลุงเรียก นาย ธาริน เข้าหา ทุกอย่างก็ถึงบางอ้อ งานนี้ ต้องขอบอกว่า ทุกครั้งที่ลุงเรียกหา ใช้งาน ธาริน เราใจคอไม่ค่อยจะสู้ดี

เพราะเท่าที่รู้มาว่า ธาริน เป็นลูกน้องที่ลุงรักมาก ธาริน เป็นสมุน เบอร์ 3 ต่อจาก นาย ป และ Winston
ลุงก็คง งงว่า ทำไม เหตุการณ์ของดรงงานตอนนี้ ทำไมไม่เหมือนหลัง วันย่างสดเผาสด ทำไมลูกจ้างไม่ยอมรักลุงเหมือนแต่ก่อน
พูดถึงคนนี้ ถึงแม้ว่าลุงจะไว้ใจ ธาริน ที่สุดคนหนึ่ง
ลุงก็หารู้ไม่ว่า ลูกน้องลุงคนนี้ เป็นคนที่คิดร้ายกับ ลุงมากที่สุด คนหนึ่งเหมือนกัน เพราะธาริน เป็นคนเผยความลับที่ว่า ลุงเป็น คนที่ติดต่อให้ ขนอม ปลอมตัวเป็นสามเณรที่แก่สุดในโลกเข้ามาในโรงงาน ทั้งๆ ที่ ขนอม นั้นไม่อยากกลับมายุ่งวุ่นวาย แต่ลุงก็ขู่ว่า งานนี้ถ้า ขนอมไม่อยากมา

สงสัยเมีย และลูกๆ ก็คงจะต้องเดือดร้อน (เหมือนกับที่แมวกำลังโดน)
ตอนที่ ขนอม กลับเข้ามา เรื่องราวมันก็ถึงวุ่นวาย ขนอมอ้างว่า กลับเพราะพ่อป่วยใกล้ตาย (สุดท้ายอีกสิบกว่าพ่อของขนอมถึงได้ตาย) พอเสร็จดีลของลุง เกิด วันเผาสด ขนอม แกก็สึกหน้าตาเฉย

และสุดท้าย ขนอม แกก็ได้ดิบได้ดี มีสายสพาย มีเงินมีทองใช้ ลุงก็เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ตอนตาย เมพที่ตอนนั้นแขนเดี้ยงก็อุตส่าห์ ไปเป็นแม่งาน
ตอนนี้ สงสัยแมวจะงานเข้าเป็นที่เรียบร้อย แมวคงต้องเลือกเอาว่า แมวอยากกลับมาตอนเป็นขี้เถ้าแบบปรีดา หรือยอมกลับมาเป็นขี้ข้าของลุง ได้สายสะพาย และเมียไม่ต้องไปเที่ยวฮ่องกง แบบขนอม

คิดว่าอีกไม่นานเกินรอ ภาคต่อของเมียแมว ลูกจ้างคงได้เห็นกันแน่ แต่ว่าจะกี่ปี
งานนี้คงสุดแท้แต่พฤติกรรมของแมว แต่เพียงผู้เดียวถ้าแมว และพรรคพวกยังไม่หยุดเรียกร้อง ปชต งานนี้มีหวัง คงยากที่เขาจะได้กลับบ้านแบบตัวเป็นๆ

แมวไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริงของลุง



คนที่ต้องการ ปชต ทุกคนต่างหาก ที่เป็นศัตรูที่แท้จริงลุง

Source: http://pla-kapong-story.blogspot.com/search?updated-min=2011-01-01T00:00:00%2B11:00&updated-max=2012-01-01T00:00:00%2B11:00&max-results=2

Friday, April 29, 2016

สถุนธนิศร์ ลูกอัฒฑะ กกต. กล่าวว่า ส่วนที่ทำไม่ได้ 8 ข้อ ได้แก่...

สถุนธนิศร์ ลูกอัฒฑะ กกต. กล่าวว่า ส่วนที่ทำไม่ได้ 8 ข้อ ได้แก่

.-
1.การสัมภาษณ์ผ่านสื่อ ด้วยข้อความเท็จหรือมีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่
-
2.การนำเข้าข้อมูล อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดมหรือข่มขู่ในเว็บไซต์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่งต่อข้อมูลในลักษณะดังกล่าว
-
3.การทำหรือส่งสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย มีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่
-
4.การจัดเวทีสัมมนา อภิปราย โดยกลุ่มองค์กรต่างๆที่ไม่มีหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรสื่อมวลชน ตามกฏหมายเข้าร่วมและมีเจตนาเพื่อปลุกระดมทางการเมือง
-
5.การชักชวนให้ใส่เสื้อ หรือติดป้าย เข็มกลัด ธง ริบบิ้น หรือเครื่องหมายที่แสดงสัญลักษณ์ความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือการขาย การแจกจ่ายสิ่งของดังกล่าว ในลักษณะรณรงค์ทั่วไปเพื่อนำไปสู่การปลุกระดมทางการเมือง
-
6.การใช้เอกสารใบปลิวหรือแผ่นพับ ที่มีข้อความเป็นเท็จ หรือมีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคาย หรือปลุกระดมทางการเมือง
-
7.การรายงานข่าวหรือการจัดรายการของสื่อมวลชนที่นำไปสู่การปลุกระดมหรือสร้างความวุ่นวายในสังคม
-
และ 8.การรณรงค์เพื่อให้เกิดการคล้อยตามของคนในสังคม เพื่อให้ออกเสียงอย่างไรอย่างหนึ่ง มีลักษณะการปลุกระดมหรือขัดขวางการออกเสียง


----------------------------------------------------------------------------------

แต่....................

เอกสารที่ทาง อาสาฯ กว่า สามแสนสามหมื่นคนเอาไปแจก ชาวบ้านร้านตลาด มีข้อความชัดแจ้งว่า "รับร่าง"

กูผู้เสียภาษีเป็นเงินเดือนให้พวกมึงแดกห่า ขอถามสัสสลิ่ม อย่างพวกมึงว่า ข้อกล่าวห้ามครอบจักรวาลของ กกต. สมุนทรราช คสช. นั้น 

แค่ ๆ ....................

พวกอาสาฯ ที่พวกมึงจัดให้ไปแจกแผ่นพับ กว่า สามแสนสามหมื่นคนนั้น ผิดเต็มประตู ทำไม ถึงไม่จับ เพราะเหตุใด .... ? ถืออภิสิทธิ์อย่างไร

กู.....ขอประกาศ เลยว่า แม้พวกสมุน กกต. ส้นตีน  จะห้ามแสดงสัมภาษณ์ผ่านสื่อ แต่กู.... ในฐานะประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ กูก็ไม่รับกฏหมาย ที่ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่จะแสดงออกไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ  ของ เหล่า ทรราช คสช. เช่นกัน

"เอาไงเอากัน"

กูไม่กลัวมึง 

-

เสรีชน


A137C431-2E14-499B-AEFA-C1371251FCFB

กกต.คลอด 8 ข้อห้าม 6ข้อทำได้ ไลค์-แชร์ข้อมูลผิด พ.ร.บ.ประชามติโทษหนัก

กกต.คลอด 8 ข้อห้าม 6ข้อทำได้ ไลค์-แชร์ข้อมูลผิด พ.ร.บ.ประชามติโทษหนัก


กกต. ออก 6 ข้อทำได้ 8 ข้อห้ามทำ คุมรณรงค์ประชามติ เตือนแม้ไม่ขัดประกาศ กกต.แต่ต้องระวังผิดคำสั่ง คสช.ยันไม่จำกัดสิทธิประชาชนแสดงออก

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.59 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต.กล่าวถึงผลประชุม กกต.ว่า กกต.มีมติให้ออกประกาศ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ จะมีผลเมื่อประกาศดังกล่าวลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว คาดว่าจะมีผลไม่เกินสัปดาห์หน้า โดยมีข้อกำหนด สิ่งที่ประชาชนทำได้ 6 ข้อ คือ 

1. ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติมให้เข้าใจอย่างครบถ้วน จากเว็บไซต์หรือสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแสดงความคิดเห็นของตน 
2. แสดงความเห็นโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ 
3. แสดงความเห็นด้วยข้อมูลที่มีความชัดเจนไม่กำกวม อันอาจทำให้บุคคลอื่นเห็นว่าเป็นการบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง 
4. การนำเสนอหรืออ้างอิงงานวิจัยตามหลักวิชาการ เพื่อประกอบการแสดงความคิดเห็นให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงบุคคลนั้น ควรตรวจสอบความถูกต้องและแสดงที่มาของงานวิจัยนั้นด้วย 
5. การสัมภาษณ์ผ่านสื่อเพื่อแสดงความคิดเห็นพร้อมเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งของตน 
6. การนำเข้าข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นพร้อมแสดงเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งของตน ในเว็บไซต์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือการส่งต่อข้อมูลดังกล่าว โดยไม่มีการแสดงความเห็นเพิ่มเติม

รองเลขาธิการ กกต.กล่าวต่อว่า ส่วนที่ทำไม่ได้ 8 ข้อประกอบด้วย 

1. การสัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือมีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ 
2. การนำเข้าข้อมูล (โพสต์) อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดมหรือข่มขู่ในเว็บไซต์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่งต่อข้อมูล (แชร์) ในลักษณะดังกล่าว 
3. การทำหรือส่งสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอันมีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ 
4. การจัดเวทีสัมมนา อภิปราย โดยกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่ไม่มีหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรสื่อมวลชน ตามกฎหมายเข้าร่วม และมีเจตนาเพื่อปลุกระดมทางการเมือง 
5. การชักชวนให้ใส่เสื้อ หรือติดป้าย เข็มกลัด ธง ริบบิ้น หรือเครื่องหมายที่แสดงสัญลักษณ์ความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือการขายการแจกจ่ายสิ่งของดังกล่าว ในลักษณะรณรงค์ทั่วไปเพื่อนำไปสู่การปลุกระดมทางการเมือง 
6. การใช้เอกสารใบปลิวหรือแผ่นพับ ที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือมีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคายหรือปลุกระดมทางการเมือง 
7. การรายงานข่าวหรือการจัดรายการของสื่อมวลชนที่นำไปสู่การปลุกระดมหรือสร้างความวุ่นวายในสังคม 
8. การรณรงค์เพื่อให้เกิดการคล้อยตามของคนในสังคม เพื่อให้ออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง มีลักษณะการปลุกระดมหรือขัดขวางการออกเสียง

นายธนิศร์ กล่าวด้วยว่า กรณีสื่อมวลชนสามารถรายงาน หรือ เสนอข่าวด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ด้วยความรับผิดชอบ เป็นกลาง คำนึงถึงความเท่าเทียมและไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งนี้ กกต.อาจจะออกประกาศเพิ่มเติม ถ้ามีกรณีใดเกิดขึ้นหลังจากนี้อีกเพื่อให้เกิดความชัดเจน กรณีการกระทำในเรื่องอื่นที่ กกต.อาจเขียนบอกว่าสามารถทำได้ การออกประกาศของ กกต.ยืนอยู่บนพื้นฐาน พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำอาจจะผิดกฎหมายอย่างอื่น เช่น พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกาศหรือคำสั่ง คสช. โดยประชาชนพึงระวังความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย ซึ่งประชาชนพบเห็นการกระทำผิดสามารถร้องพนักงานสอบสวนได้เลย ไม่ต้องร้องผ่าน กกต. และพนักงานสอบสวนจะเรียกบุคคลนั้นไปให้ปากคำ และกกต.มีดำริจะเชิญ ผบ.ตร.มาทำความเข้าใจเพื่อให้การปฏิบัติงานเรียบร้อย แต่รอให้ร่างประกาศมีผลก่อน.


       อาสาหาข่าว
         29/4/59

เหตุที่พระพุทธศาสนาเสื่อมสูญจากอินเดีย


เหตุที่พระพุทธศาสนาเสื่อมสูญจากอินเดีย
...........................
พระพุทธศาสนาที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอินเดียจนถึงขีดสุด แต่กลับต้องล่มสลายลง ด้วยเหตุปัจจัยหลักๆคือ



1.คณะสงฆ์และชาวพุทธเริ่มอ่อนแอ ขาดความสามัคคี ไม่มีความเป็นเอกภาพ มุ่งแต่เรื่องส่วนตัว แต่เรื่องส่วนรวม ต่างวางอุเบกขา
2.ถูกกลืนจากต่างศาสนาคือฮินดู
3.ภาครัฐหรือกองทัพไม่ปกป้องสนับสนุน จนถูกรุกรานจากต่างศาสนาคือ มุสลิม บุกเผาทำลายวัดวาอารามต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่มหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนั้น ใช้เวลาเผานานนับเดือน อีกทั้งยังบุกฆ่าพระสงฆ์นับหมื่นรูป

เมื่อพระสงฆ์ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ ถูกกำจัด ที่มีชีวิตอยู่ก็ถูกกลืนจากต่างศาสนาและหนีออกนอกประเทศ พระพุทธศาสนาจึงล่มสลายไปในที่สุด

ในปัจจุบันจะเห็นว่า ภัยศาสนาดังที่กล่าวมา ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย เพียงแต่รูปแบบได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัยเช่น
-ให้คนของต่างศาสนาเข้ามามีอำนาจในการแก้ใขข้อกฏหมาย เพื่อลิดรอนสิทธิ์ชาวพุทธ
-อนุญาติและสนับสนุนให้มีมัสยิดได้ในทุกจังหวัด แม้เขตป่าสงวนเช่นภูเกตุ ส่วนสำนักสงฆ์ในป่าต้องถูกรื้อทำลาย
-ให้เงินสนับสนุนมุสลิมแต่ตัดเงินเกื้อหนุนพระสงฆ์ไทย
 -ขัดขวางการทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา เช่นงานตักบาตร
-ขัดขวางการเผยแพร่ธรรมะทุกรูปแบบ เช่นสั่งระงับวิทยุเสียงธรรม ของหลวงตามหาบัว
ฯลฯ

ดังนั้น เราชาวพุทธ หากเอาแต่นิ่งดูดาย อาจสายเกินไป ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา ก่อนที่จะกลายเป็นแค่ตำนานเมืองพุทธ โดยยึดคติที่ว่า

"เรื่องส่วนตัว ให้วางอุเบกขา 
เรื่องพระศาสนา ให้เอาอุเบกขาวาง"

อย่างนี้ จึงจะถือว่า ได้ทำหน้าที่ของชาวพุทธที่แท้จริง 
...............................

ทหารเรียกตัว อาจารย์ มช. เข้าค่ายทหารให้ข้อมูล

http://prachatai.com/journal/2016/04/65528

ทหารเรียกตัว อาจารย์ มช. เข้าค่ายทหารให้ข้อมูล

Fri, 2016-04-29 22:26

29 เม.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19.56 น. ที่ผ่ามา ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์จากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Pinkaew Laungaramsri' ในลักษณะสาธารณะ ซึ่งเป็นภาพถ่ายจดหมายถึงอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จาก กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ เรียงตนเองเข้าพบเจ้าหน้าที่กองกำลังดังกล่าว เพื่อให้ข้อมูล 

ประเด็นฮ็อต เจ้าคุณเบอร์ลิน... ได้อ่านหรือยังครับ

https://www.facebook.com/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99-1072393339490544/

นิติบุคคล ซ้อน นิติบุคคล : แฉเล่ห์ โยก "เงินอุดหนุนสังฆราช" เข้า มูลนิธิที่ตั้งรองรับ : จาก ใช้จ่าย ตามพระอัธยาศัย แปลงเป็น ใช้จ่าย ตามใจฉัน : เปิดเผยตัว"หลวงป้า" พระลูกชาย พฤติกรรมซ่อนเพศ.

-----------------------------------------------------

- รายงานตัวครับผม.

- ขอแจ้งว่า ผม เจ้าคุณเบอร์ลิน ณ วันนี้ ก็ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง สมองใส ใจสดชื่น และดีใจที่ได้สร้างบุญ ในงานป้องภัยพระศาสนาอย่างแข็งขัน เช่นเดิมครับ อีกทั้งร่างกาย และจิตใจ ของผม ก็ปกติทุกประการครับผม.
---------------------------------------

- มาวันนี้ ผมจะขออนุญาต ชวนทุกท่าน มาสนทนา 4 เรื่อง หลัก ๆ นะครับ นั้น คือ..

เรื่องที่ 1.

- เชิญไปเปิดตัว "หลวงป้า" แห่งวัดบวร ด้วยกัน.

เรื่องที่ 2.

- เปิดเผยเล่ห์กลโกง "การทำชั่ว แบบ ถูกกฎหมาย" เช็คเส้นทางเงินสังฆราช คือ การตั้ง มูลนิธิ ซึ่งเป็นนิติบุคคล ขึ้นมาซ้อนกับ วัดบวร เพื่อทำการโยกย้ายถ่ายเท เงินอุดหนุนสังฆราช อย่างแยบยล.

เรื่องที่ 3.

- เจ้าคุณเบอร์ลิน ยุยื่น สตง. ตรวจสอบ มูลนิธิที่โอนเงินสังฆราชเข้า เพื่อแปลงอำนาจคนสั่งจ่าย.

เรื่องที่ 4.

- ส่องเส้นทางเดิน เงินอุดหนุนสังฆราช.
-----------------------------------------------------------

- ทั้ง 4 เรื่องนี้ จะเป็นอย่างไร เชิญอ่านให้จบนะครับ.

-------------------------------------------------

ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนว่า..

- จากโพสต์ครั้งล่าสุด ของ เจ้าคุณเบอร์ลิน ทำเอาร้อนแรงยังกับไฟลามทุ่งในวงการศาสนาไทยทีเดียว.

- เพราะโพสต์ล่าสุดที่ชื่อ God Mother นี้ มีคนเข้ามาอ่าน เฉพาะที่ปรากฎในเพจรายงานว่า มีกว่า 2 แสนคน และถูกแชร์ออกไปเกือบ 5 พันครั้ง และยังถูกนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ อีกจำนวนมาก.

- นี่คือ เหตุการณ์ที่เรียกว่า "ปรากฎบนดิน".

- ส่วนที่ "ปรากฎใต้ดิน" นั้น บอกได้ว่า "แรง และแรงที่สุด แรงมากกว่าที่ผ่าน ๆ มากครับ"

- เอาเป็นว่า ผลจากโพสต์ล่าสุด ทำเอาผม และทีมงาน เพื่อความปลอดภัย จึงถูกเตือน ให้ต้องนิ่ง ๆ ณ ที่ตั้งไว้ก่อน ในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมา.

- ทำไงได้ครับ ยุคคนพาลเป็นใหญ่ งานนี้จะมาเอามันส์ไม่ได้ "ต้องเอาจริง" อย่างเดียว.

- จึงจะบรรลุงานใหญ่ได้ ขอแฟนคลับ โปรดเข้าใจ และใจเย็น ๆ นะครับ จะจับเสือ ขืนเดินทื่อ ๆ ไปจับ มันก็งาบเอาซีครับผม.

----------------------------------------------------------------

- ณ วันนี้ หลังประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้ว จึงร่วมกันวางแผน เข้าโจมตีทะลวงทัพหลวง "กลางกล่องหัวใจ ของ "หลวงป้า" และถีบยอดหน้า เป็นบาทาลูบพักตร์ ของ แก๊งค์ชั่วนี้ไปเลย.

- หากยังไม่หยุดทำชั่วอีกแล้วละก็ "ผมเอาตายแน่ๆ งานนี้ จะลองดูก็เชิญเลย".

- ก็ยังยืนยันว่า ณ วันนี้ไม่มีถอย ยังไง ๆ ก็คำเดิมว่า.,

"งานนี้กูเอาจริง"
"มาไงก็ไปงั้น คดีมาก็คดีไป"
"หากให้กูหยุด มึงต้องหยุดทำชั่วก่อน".
---------------------------------------------------------

เริ่มเรื่อง

- อันที่จริง หลังจากโพสต์ครั้งที่แล้ว ผมตั้งใจว่า จะไม่พูดเรื่องเงิน 23 ล้าน ต่อไปอีกแล้ว จะขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน.

- ซึ่งทั้งหมดที่พูดมา เบื้องต้น ผมก็หวังเพื่อให้สติ คนที่จับหอกวางแผนอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้หยุดเรื่องชั่วๆ ได้แล้ว พอได้แล้ว ก็ยังหวังในใจว่า..

"ฝ่ายชั่วจะมีสำนึกทางดีอยู่บ้าง".

- แต่กลับตรงข้าม คือ แทนที่จะพากันสำนึกผิดต่อพฤติการณ์อันต่ำช้านี้กัน.

- การณ์กลับกลายเป็นว่า คนเหล่านี้ ยังไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ เลย.

- แถม ยังใช้ให้ พญามารราชสีห์ แห่ง วัดอ้อน้อย ไปเที่ยวเห่า เที่ยวหอน ไม่หยุดปาก สักทีอีกด้วย.

- ผมเห็น วัน ๆ เอาแต่ไปเที่ยวไล่กัดคนนั้นคนนี้ ไม่หยุดไม่หย่อน.

- ซ้ำร้าย มาในวันนี้ เห็นข่าวจากเมืองไทยว่า จะไล่กัดสื่อเสียแล้ว.

- ดูแล้ว สันดานหยาบแบบนี้ ก็คงจะมีแต่ พุทธอิสระ หรือ คนสันดานหมาบ้า แหละครับ ซึ่งมองยังไงก็มิใช่วิสัยพญาราชสีห์อะไรหรอก คนดีที่ไหนเขาจะมาทำได้ขนาดนี้ละครับ.
----------------------------------------------------------

เตือนพุทธอิสระ อย่าลำพองตน คิดอะไร เผื่อทางลงไว้บ้าง

- ขอจงจำคำพูดผมไว้ว่า ..

- ที่พระทั้งหลาย ท่านไม่พูด ไม่ตอบโต้นั้น ไม่ใช่ว่าเขากลัวคุณใดๆเลย.

- แต่เขารู้สึก "เวทนาหมาขี้เรื้อน" ตัวที่มันแค่ได้เห็นเงาหัวตัวเองไหวในน้ำ ก็มาสำคัญว่า ตนได้กลายร่างเป็นพญาราชสีห์ไปแล้วต่างหาก.

-ซ้ำ ที่วัน ๆ ก็ยังคงนอนคลุกขี้อยู่ อยู่ใต้ถุน ครั้นเหลือบขี้ตามองเห็นใบตองแห้งปลิวที่ไหน ก็เห่าที่นั่นไปเรื่อย.

- ด้วยยังสำคัญว่า "ตนทรงอำนาจ" แบบภาพลวงตาไปอีก.

- อย่าหลงตนๆ ท่องไว้.
----------------------------------------------------------------------

เผยคนอมเงิน 23 ล้านบาทต่อปี : ความชั่วห้องกระจกต่อเนื่อง

- ผมจะบอกให้ เพื่อเอาบุญสักหน่อยว่า.

- ขอจงจำใส่กระโหลกหนาๆ ของพุทธอิสระ และพรรคพวก ไว้ซะ ว่า..

- อันเงิน 23 ล้านนั่นนะ...

- อันที่จริง ท่านเจ้าคุณเทพฯ ท่านก็เป็นแต่เพียงผู้รับเท่านั้น มิใช่ผู้ใช้เลย ด้วยหน้าที่คือการสนองงานหน้าห้องสมเด็จพระสังฆราช.

- ตรงนี้ คนใกล้ชิดวัดบวร อยู่ในทีมอดีตกองเลขาพระสังฆราช ได้กระซิบบอกผมมาว่า ..

"คนอื่นทั้งนั้นเอาไปกินกัน แต่กรรมดันมาตกเป็นของเจ้าคุณเทพฯ เพราะเป็นผู้รับเงินคนแรก"
---------------------------------------------------------

- ส่วนคนอื่น จะเป็นใครนั้น ให้ไปถาม ดีเอสไอ กันเอาเอง ที่นั่นถ้าสถานการณ์ปกติ "เขามีคำตอบให้ครบถ้วน".

- แล้วอย่าให้ใครมาร้องท้าเชียวนะว่า ..

"ถ้าเจ้าคุณเบอร์ลิน แน่จริง ก็บอกชื่อมาตรงๆ เปิดเผยเอกสารมาเลย อย่าลับๆ ล่อๆ กูจะประสาทแดกตายห่าอยู่แล้ว (โว้ย)".

-------------------------------------------------------------------
เข้าเรื่อง

เรื่องที่ 1.

- เปิดตัว "หลวงป้า" แห่งวัดบวร เป็นทางการ.

- ข้อนี้ ผมขอเตือนนิ่ม ๆ ว่า ..

"อย่าเชียวนะครับ อย่ามาท้าทาย เรื่องนี้
กับคนอย่างผมนะครับ
เพราะคนอย่างเจ้าคุณเบอร์ลิน
หากโนเนม เป็นคนธรรมดา ไร้ฝีมือ แล้วละก็
ผมคงไม่อาจหาญ ลุกขึ้นมาต่อกรกับแก๊งค์ชั่ว
ได้มายาวนานขนาดนี้ได้หรอก
ยิ่งเลือดอาจารย์มันแรง ๆ อย่างนี้ละก็
อย่ามามองผมว่า ไร้น้ำยาเด็ดขาด.

- เดี๋ยวผมได้เกิด "องค์ลงขึ้นมา" เกิดเบรคแตกขึ้นมาจริงๆ มันจะพังทั้งก๊วนง่าย ๆ นะครับ ขอบอกก่อน.

- ไอ้ตัว"หลวงป้า" หัวหน้าใหญ่ตัวชูโรงนะแหละ จะผูกคอตายก่อนใครเพื่อน.

- จะ "ลองของ" กับผมเมื่อไร ก็ไปปรึกษากันดีๆ ก่อนนะครับ แล้งจึงค่อยมาท้าทายผม.

- จะได้ไม่ต้องมานั่งโทษกันภายหลัง อย่างรายการผิดคิว ที่ดันไปยื่น สตง. ให้มาสอบพวกงาบเงินสังฆราช ที่กลายเป็นพวกกันเองแบบคราวที่แล้ว.

- ถึงเวลานั้น จะหาว่าผมไม่เตือน ไม่ได้นะครับ.

- ให้รู้ไว้ทั่วกันด้วยว่า ..

"พระวัดบวรที่เขารู้ผิดชอบชั่วดี นั้นมีอยู่ และเขาเอือมระอาต่อพฤติกรรม ทั้งของ "หลวงป้า" และสตรีผู้ศักดิ์ใหญ่นี้กันทั้งนั้นในทุกวันนี้.

- เขาแอบซุบซิบกันข้างกำแพงวัด จนกระจายไปทั่วประเทศไทยไปนานแล้ว.

- เรื่องชั่วเหล่านี้ ดังไม่ดัง มันก็ข้ามกำแพงจากวัดบวร กทม. ข้ามทวึปมาไกลจนถึง นครเบอร์ลิน ก็แล้วกัน คิดเอาเอง.

- เผลอๆ เรื่องเน่าแบบนี้ อาจไปไกลจนถึงแอลเอ-ลาสเวกัส อเมริกาไปแล้ว ก็ได้.

- หากไปกดขี่ข่มเหงเขามาก ระวังมันจะระเบิดเร็วเกินคาดได้? นะครับ.
------------------------------------------------------------

- ขอเตือน "หลวงป้า"ว่า..

" ตอนนี้สังคมเพ่งเล็ง และเริ่มเห็นไส้ท่านแล้ว เห็นขึ้นทุกวันแล้วด้วยครับ".

- ดังนั้น หากจะทำอะไร ที่เคย ๆ ทำมานั้น ก็ให้ระมัดระวังกิริยาท่าทางเอาไว้บ้าง สงวนท่าทีในใจไว้บ้าง ทำอะไรกัน ก็ให้ทำในห้อง ในที่กันมิดชิดหน่อย.

- จากนี้ ก็ขอได้อย่าไปเที่ยวจับมือถือแขน เด็กหนุ่มๆ หน้าตาดี แล้วทำตาชะมดชะม้อย ในที่สาธารณะ ดังที่เคยประพฤติประจำนั้น ก็อย่าให้มันบ่อยประเจิดประเจ้อนัก.

- จากนี้ไปก็ อย่าออกอาการ ให้มันมากจนน่าเกลียดนัก.

- เพราะพระหนุ่มเณรน้อยเขาเห็นแล้ว เขาจะรับไม่ไหวแล้ว และเขาจะนินทาหนักขึ้นได้.

- มันจะเสียชื่อพระนิกายเคร่งที่เขาเคร่งจริง และจะเสื่อมเสียมาถึงวัดอันดับหนึ่งของคณะธรรมยุต.
-------------------------------------------------

- ที่ผมหมายถึงนี้ แน่นอน ครับว่า..

"หลวงป้า ย่อมไม่ใช่ หลวงลุง และไม่ใช่หลวงเจ้ เพราะแก่เลยชั้น"เจ้"ไปนานแล้ว".

- นี่เขาใช้เรียกกันครับ และดูเหมือนเจ้าตัว ทั้งในที่ลับที่แจ้ง ก็จะชอบคำเรียกนี้เป็นพิเศษเสียด้วย "ใช่...เปิดเผยว่างั้นเถอะ".

- ไม่เชื่อผม ก็ลองแกล้ง นำไปเรียกดูก็ได้ครับ.

- เด็กนักเรียนชายในวัดเขารู้กันทั้งนั้น.

- อันนี้พระวัดบวรท่านฝากเตือนมา.
----------------------------------------------------

เป็นพระภิกษุจริงหรือ "หลวงป้า" บวชมาได้ไง

- ว่าไปแล้ว ไอ้พฤติกรรม "ออกแนวนี้" นั้น หากยึดตามพระธรรมวินัย แล้ว.

- เมื่อพระอาจารย์สวดถามตอนบวชว่า "ปุริโสสิ๊" ผมก็นึกไม่ออกว่า "หลวงป้า" แกจะตอบว่าไง.

- แค่นี้ก็บวชเป็นพระไม่สำเร็จตั้งแต่วันบวชแล้วครับ.

- จะยังมาอ้างเป็นพระภิกษุสมบูรณ์ได้อย่างไร.

- แถมยังหลงตนว่า "นิกายข้าเคร่งกว่านิกายอื่น" ก็ยิ่งน่าอายไปใหญ่.

- ทั้งยังมาคิดการณ์ใหญ่จะปกครองสงฆ์อีก "เจียมตัวเสียบ้างนะครับ "หลวงป้า" ที่เคารพ".

- ผมลองหลับตานึกเล่น ๆ หากบุญพาวาสนาส่ง วันใดวันหนึ่ง ผีนรกถีบส่งเสริมให้ ...

"หลวงป้า แก ขึ้นเป็นพระสังฆราช แห่งสังฆมณฑลจริง ๆ แล้ว ละก็
ถึงวันนั้น ในวัดในวา คงได้นินแต่เสียง "ว้ายๆ" กลายเป็น"กุฏิแต๋วแตก" เป็นแน่เชียวยุคนี้.

- ส่วนกิจการพระศาสนา ในประเทศไทย "ยุคหลวงป้าครองสงฆ์" ก็คงจะสุดเกินคำบรรยายแล้ว ไม่อยากนึกต่อแล้วละครับ ฝนฟ้าคงอาเภทหนักยิ่งขึ้น.

- โปรดลืมตา และเปิดปัญญากันบ้างเถอะ ลูกศิษย์ทั้งหลายเอ้ย อย่าหน้ามืด ไปนับถือผิดรูปผิดองค์มากไปกว่านี้อีกเลย.

- ไม่ทราบจะพูดต่ออย่างไรแล้ว กับคนพาลพวกนี้.
--------------------------------------------------------------------

เนื้อไม่ได้กิน "จึงเหลือแต่กระดูก" : กรรมเจ้าคุณเทพ ฯ

- ว่าไปแล้ว ทั้งหลายทั้งปวง ผมก็อดที่น่าจะสงสารเจ้าคุณเทพฯไม่ได้ครับ.

- ที่วันนี้ นับแต่วันที่ พุทธอิสระ ออกอาการมึน ดันไปยื่นตรวจสอบเงินอุดหนุนสังฆราชนี้ กับ สตง.ในคราวนั้น.

- ซึ่งเมื่อเป็นข่าวคราวเกรียวกราว ทุกสายตา ถนนทุกสาย ทั้งสายพระสายโยม ต่างก็เพ่งไปที่แก อยู่จุดเดียวกัน เหมือนบาปจะตกแก่ท่าน อยู่คนเดียว.

- ทั้งที่ เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง แถมยังเอากระดูกมาแขวนคอไว้อีกต่างหาก.

- ส่วนเนื้อดีๆ พวก "ขบวนการเหลือบ" เขาเอาไปกินกันหมด.

- เพราะตนเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตา สนองงานในพระสังฆราชอย่างเดียว.
---------------------------------------------

เรื่องที่ 2.

- เรื่อง กลโกงห้องกระจก

- การตั้งมูลนิธิ "นิติบุคคล ซ้อน นิติบุคคลของวัด" เพื่อโยกย้ายถ่ายเท เงินสังฆราช : ทำชั่วแบบถูกกฎหมาย.

- คนใกล้ชิดวัดบวรให้ข้อมูล และบอกผมมา หลังจากผมเกาะติดเรื่องเงินอุดหนุนสังฆราชนี้ ว่า ..

(ใน. "....." ทั้งหมด ทุกคำพูด ในประโยค ล้วนเป็น"ข้อมูลดิบ" ที่ผมได้รับมา เมื่อสองวันก่อนทั้งหมดครับ และ ขอให้ทุกท่าน ได้โปรดอ่าน และพิจารณาหลาย ๆ รอบนะครับ แล้วก็โปรดเชื่อตนเอง อย่าเพิ่งเชื่อผม จนกว่าจะมั่นใจ จึงค่อยเชื่อก็ได้ครับ)...
-------------------------------------------------------

ข้อมูลดิบ ที่ได้รับล่าสุด เมื่อ 2- 3 วันที่ผ่านมา ทั้งหมดมี ดังนี้

"ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี เงินพระสังฆราชปีละ 23 ล้าน เจ้าคุณเทพฯ เป็นแต่เพียงผู้รับไว้เท่านั้น

เพราะสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ท่านนี้..

เธอได้ขอให้เอาไปเข้ามูลนิธิฯ ที่ (วางแผน) ตั้งขึ้นในวัด

จะได้ใช้เงินแยกเป็นส่วนหนึ่งออกไปจากวัด

ที่จริง ควรเรียกว่า "บังคับ" ให้เอาไปเข้าบัญชีมูลนิธิฯ ก็ได้

โดยมี "หลวงป้า" แห่งวัดบวร ในฐานะ "พระลูกชาย" เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด และใช้อำนาจทั้งหมดของอดีตพระสังฆราชเสียเอง

ซึ่งก็จะมีสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนเดียวกันนี้ ในฐานะโยมแม่

จะคอยสั่งการอยู่เบื้องหลังทุก ๆ อย่าง ว่า "จะทำอะไรบ้าง"

ส่วนกรรมการมูลนิธิคนอื่น ๆ ก็เป็นแต่เพียงตัวประกอบนิทานเรื่องนี้เท่านั้น

นับเป็นวิธีที่ชาญฉลาด อาศัยช่องกฎหมาย หาผลประโยชน์ เพื่อให้นิติบุคคล ซ้อน นิติบุคคล

นั้น คือ วัดมีเจ้าอาวาส เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายอยู่แล้ว

"แต่ก็ตั้งมูลนิธิขึ้นมาในวัดอีกชั้น"

เพื่อให้ประธานมูลนิธิเป็นอีก "หนึ่งนิติบุคคล"

ที่สามารถใช้อำนาจประธานนำเงินก้อนนี้ไปใช้ได้ "ตามอัธยาศัยของตน"".

- จบข้อมูลดิบครับ.
--------------------------------------------------------

- เรื่องการตั้งมูลมิธิ เพื่อเป็นนิติบุคคล ซ้อนนิติบุคคล แล้วก็เอามาเล่นแร่แปรธาตุ กับเงินอุดหนุนสังฆราชนั้น.

- ใครไม่เชื่อ จะพิสูจน์ก็แสนจะง่าย ๆ ครับ.

- เพียงแค่นำชื่อมูลนิธิที่จดทะเบียนในรั้ววัดบวรมากาง แล้วไล่บัญชี เงิน เข้า - ออก จากไหนไปไหน ใครเกี่ยวข้องบ้าง เพียงเท่านี้ ก็จะชัดเองครับ.

- ก็ขอแทรกตรงนี้หน่อยว่า..

"ทำอะไรก็รีบทำๆ และเตรียมเอกสารไว้เนิ่น ๆ นะครับ เผื่อวันไหน DSI เขาสนใจตรวจเมื่อไร จะได้ง่ายครับ - ผมเตือนคุณแล้วนะครับ".

---------------------------------------------------------

- ถึงตรงนี้ เป็นไงกันบ้าง ชัดเจนไหม? ครับ.

- สุดแสบไหมครับ กับ พฤติกรรม พวกเหลือบศาสนาที่ดูผิวเผินน่าเลื่อมใส ของ ขบวนการชั่วพวกนี้.

- แทบไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมครับว่า

- ไอ้เรื่องเน่า ๆ แบบนี้จะมีอยู่จริง ๆ ในแดนสนธยาที่ดูน่าเลื่อมใสศรัทธาแบบ"พระนิกายเคร่งที่สุดในประเทศไทยเรา".

- เรื่องนี้มีหรือครับ ที่คนภายนอกวัด สังคมคนนอกใครเขาจะไปล่วงรู้ได้.

- ซึ่งว่าไปแล้ว ก็เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณบูรพาจารย์ผู้มีศักดิ์ใหญ่ ที่ประจำอยู่ ในวัดบวร ที่พระองค์ท่าน ไม่ยอมเล่นด้วยกับพวกชั่วนี้.

- ดังนั้นข้อมูลเน่าเหล่านี้ จึงได้ไหลออกจากวัดบวรกระจายไปทั่วไทย ซ้ำไหลเหม็นฟุ้งไปไกลถึง กรุงเบอร์ลิน อย่างแทบไม่น่าเชื่อ.

- แบบนี้ไม่เรียกว่า"บุญพระศาสนา จะเรียกว่าอะไรครับ".
--------------------------------------------------------

- ย้อนแสบไส้ แนะ พุทธอิสระ ยื่น สตง. ไปเลย : หากแน่จริง.

จริงหรือไม่ : คำถามจากสังคม

- ที่วัดแห่งหนึ่งที่อ้อน้อย ก็ได้ลอกเลียนรูปแบบ แห่งความชั่วนี้ เอาไปให้ทำมาหากินเช่นกัน.

- นั้นคือ ผมจะบอกให้ก็ได้ มันก็เป็นวิธีเดียว หรือตำราเล่มเดียวกันกับที่ "คล้าย"สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ท่านนี้ ได้นำไปสอนให้แก่ พุทธอิสระ ได้ทำด้วยที่อ้อน้อย นะแหละครับ.
-------------------------------------------------

ทำชั่วกันยังไงมาดูกัน

ขอถามว่าเรื่องนี้ว่า ...ใช่หรือไม่ นั่นก็คือ

- โดย ตัว พุทธอิสระ แกก็ได้ตั้ง มูลนิธิ ขึ้นมาเพื่อ "พักเงิน" ที่มาจากแหล่งต่าง ๆ.

- จากนั้นแล้ว ตนเอง ก็ทำทีเป็นตีเนียน ทำทีลาออก จาก เจ้าอาวาส (เพื่อเลี่ยงกฏหมายสงฆ์ และกฏมหาเถรสมาคม).

- แล้วยังวางตัวเป็นพระโพธิสัตว์ คล้ายเป็นผู้เสียสละ ยืน-เดิน-นั่ง-นอน-กิน-ดื่ม-ทำ-พูด-คิด บนกระท่อมไม้ไผ่ ไม่ยึดติดลาภยศตำแหน่งแห่งที่อันใด (ซึ่งจริง ๆ แกก็ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในทางคณะสงฆ์อยู่แล้ว).

- โดยทำทีไปตั้งพระลูกศิษย์ขึ้นบังหน้า ให้มาเป็นเจ้าอาวาสแทน ทั้งที่ตัวเองควบคุมทุกอย่างไว้เบ็ดเสร็จอยู่แล้ว.

- แบบว่า สร้างเจ้าอาวาสเป็นนอมินีขึ้นมาเพื่อตบตาผู้คน นั้นเอง.

- ส่วนตัวเองก็ยืนบงการอยู่เบื้องหลัง คอยเชิด.

- เพื่อให้ชาวบ้านชาวเมืองยกยอ และอ้างว่า

"กู คือ พระโพธิสัตว์ บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ไม่จับต้องเงินทอง ของนิสสัคคีย์
เพราะไม่มีเงินสะสมในบัญชี
ส่วนพระที่เหลือนอกนั้น
ที่มีบัญชีธนาคาร
เป็นพระอลัชชีชั่วทั้งหมด ?".

- ไอ้ลูกศิษย์ที่มันไม่เคยเข้าวัดไหน ๆ ไม่รู้เรื่องพระเรื่องเจ้า พอได้เห็นภาพมายาเช่นนี้.

- ก็พากันเฮตาม กลายเป็นสงฆ์ผู้วิเศษเหนือสมเด็จพระราชาคณะไปโน้น.

- เรื่องชั่วๆ แบบนี้? คนพันธ์ุนี้ มันสุดยอดอยู่แล้วครับ อย่าไปสงสัยเลย.

- หรือไม่งั้น ไอ้เรื่องชั่วๆ แบบนี้ ก็มีแต่ "พญาราชสีห์แก่ ๆ ขี้เรื้อน" ที่ทำผิด ทำชั่วได้สารพัดตัวนี้ เท่านั้นแหละ ที่คิดได้? ทำได้ครับ? ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัวครับ.
----------------------------------------------------------
สังคมจึง อยากถามพุทธอิสระ ว่า ...

"คุณไปเอาก้อนไขมัน ในกระโหลก ส่วนไหนคิด มันจึงทำให้ พญาจิ้งจอกแห่งอ้อน้อย แห่งนี้ ถึงได้ฉลาดทางตำ่ พวกเฉโก แกมโกง และทำชั่วด้าน ๆ ได้ถึงเพียงนี้.

หรือว่ามี สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ณ บางลำพู เขาสอนมาให้ โดยเฉพาะ

เพื่อใช้วิธีเจ้าเล่ห์เพทุบาย ในการโกง อย่างฉลาดแบบเดียวกันกับที่จิกหัวใช้"หลวงป้า" นี้ หือ? (ไม่อยากเติมคำว่า "ไอ้หอก").

------------------------------------------------
- ถ้าพุทธอิสระ อยากแก้ไข ล้างบาป ที่ทำมาต่อเนื่องนี้ละก็.

- ผมว่า อย่ามาเสียเวลา ไปปลงอาบัติเลย นะครับ.

- เพราะเรื่องชั่วๆ หนักอย่างนี้ ปลงอาบัติไปเท่าไรเป็นปีเป็นชาติ มันก็ไม่ตกหรอกครับ พระธรรมวินัย ก็คงเกินรับไปแล้ว.
------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 3.

- เจ้าคุณเบอร์ลิน : ย้อนเกร็ด ยุยื่น สตง.

แนะนำให้พุทธอิสระ

ไปนั่งร่าง นั่งทำหนังสือ แล้วให้เดินไปยื่นถาม สตง.อีกสักรอบว่า....

" การโอนเงินหลวง ส่วนสังฆราชนี้ โยกย้ายไปเข้า "บัญชีมูลนิธิ".

มันเข้าข่ายผิดระเบียบ ในการใช้จ่าย งบประมาณแผ่นดินหรือไม่? "

หรือ

"โอนเงินหลวง ไปเข้า "บัญชีมูลนิธิ" เข้าข่าย ยักยอก ยักย้ายถ่ายเท เงินหลวงไปเป็นของตน หรือไม่?".

และ

"คนทำนั้น มันมีอำนาจหน้าที่แห่งหนอะไร จึงเอาเงินที่สั่งจ่ายในนามพระสังฆราช ไปเข้าบัญชีมูลนิธิ".

- สิ่งลึกล้ำเหล่านี้ ขอให้ผู้เกี่ยวข้อง ทุกคน รวมทั้ง"หลวงป้า" ด้วย ก็คงต้องเตรียมตัวเตรียมตนคอยตอบ สตง. ให้ได้นะครับ ขอเตือนไว้ล่วงหน้า.
-------------------------------------------

- เพราะความผิดแบบพิศดารเช่นนี้ หากนำไปถามคนอื่น ๆ เขาคงไม่รู้เรื่อง ไม่ชัดเจน หรอกครับ.

- ดังนั้น ถ้าถาม สตง. จะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด.

- แล้วคำตอบก็คิดดีๆ ก่อนนะครับ ขืนโชว์โง่ออกมาบอกว่า"โอนเข้ามูลนิธิ ไม่ผิด" ละก็.

- คำถามก็ตามยาวเลย เช่นว่า..

"เจ้าของเงินเขารับรู้รับเห็นหรือเปล่ามีหลักฐานอะไรยืนยัน"

"คนดำเนินการมีอำนาจ มีกฎหมายรองรับหรือเปล่า".

- สารพัดผิดเลยครับ คนเราก็เมื่อใจคดแล้ว ผลกรรมมันจะออกมาดีได้อย่างไร.
---------------------------------------------------

- แล้วก็ขอให้ พุทธอิสระ รีบไปถามก่อนใคร ๆ เสียนะครับ ขยันนักนี่เรื่องร้องเรียนนี่.

- เพราะอีกไม่นาน ขอให้จดจำคำพูดผมไว้ดี ๆ.

- เอาเป็นว่า สั้น ๆ ว่า...

"คงจะมีคนไปร้อง ซ้ำในเรื่องพุทธอิสระ ที่ได้เคยเซ่อไปยื่นร้องไว้ อย่างแน่นอนครับ".
--------------------------------------------------

- ทีนี้ คงถึงเวลา
"คดีความมาถึง แน่ๆ และประตูคุก ก็คงจะเปิดรอคนที่เกี่ยวข้องแล้วแหละ อย่าล้อเล่นนะครับ".

- ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ใช่หรือไม่ มึนหรือไม่มึน พญาจิ้งจอกแห่งอ้อน้อย? คงทราบดี.
---------------------------------------------------

- คราวนี้ ผมว่า คงได้หายบ้ากันสักทีนะที่นี้ สำหรับความหยิ่งผะยองของ"ไอ้แก๊งค์ชั่วทำลายศาสนา" พวกนี้ ที่นับวันจะใหญ่คับประเทศไปแล้ว.

- หรือมันจะบ้ากว่าเก่าก็ได้นะครับงานนี้.

- แต่อย่าลืมนะครับ อันคนทำผิดนั้น ยิ่งดิ้น มันก็จะยิ่งเผยชั่ว และหมดแรงไปในที่สุด.
-------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 4.

- ส่องเส้นทางเดิน เงินอุดหนุนสังฆราช ซับซ้อนแต่ทิ้งหลักฐาน

เงินหลวง เป็นเงินศักดิ์สิทธิ์ : แถมเงินสงฆ์ยิ่งกรรมหนัก

ตามรายงานของทางราชการ
ที่ผมมีอยู่ในมือขณะนี้..

ดังนี้

"เงินหลวง ก้อนนี้ ได้ถูกตีเช็ค ออกจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ใน พระนาม สมเด็จพระสังฆราช แล้วเดินทางไปที่ โรงพยาบาลจุฬาฯ ที่ประทับระหว่างประชวร

โดยมีเจ้าคุณเทพฯ เป็นผู้รับ พร้อมเซ็นใบรับเงิน

จากนั้น เงินก้อนนี้ ก็จะเดินทางต่อไปยังวัดบวร

เพื่อ"แปลงสภาพเข้ามูลนิธิ"

เป็นมูลนิธิที่สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ได้จัดตั้งไว้รองรับโดยเฉพาะ

ที่ตนเองมีอำนาจควบคุมเบ็ดเสร็จ.".

----------------------------------------------------

- เรื่องนี้ ผมชี้ขนาดนี้ ระดับ DSI. หากสนใจคงไม่ยากที่จะสืบหานะครับ ก็เห็นขยันเรื่องพระนักนี่ครับ จะไม่สนใจบ้างหรือครับ เรื่องแบบนี้.
------------------------------------------------------------

เงิน 300 ล้านบาท : บ่วงอาญาสวรรค์ ที่ย้อนมารัดคอแก๊งค์ทำลายศาสนาเสียเอง.

- ดังนั้น ณ วันนี้ เงินหลวงกว่า 300 ล้าน จึงกลายเป็นบ่วงอาญาสวรรค์ ที่กลายเป็นกับดัก และได้รัดคอ พญาราชสีห์ ให้ติดไว้กับหลักประหาร เสียเอง แบบตายน้ำตื้น.

- นับวัน ที่มีชีวิตอยู่ต่อ ก็เพื่อรอวันพิพากษา และรับการลงทัณฑ์ จาก ทหารสวรรค์ ผู้ไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม ที่ชื่อ เจ้าคุณเบอร์ลิน ชนิดฟ้าส่งมาคู่กัน อย่างเกินคาด ไปเท่านั้น - คอยดูต่อไป(นี่ไม่ใช่การขู่).
---------------------------------------------

- ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ จึงชัดเจนว่า ...

- ไฟอาฆาตแค้นได้ประทุขึ้นมา และได้แผดเผาจิตใจของพญาราชสีห์ให้เดือดดาล คลุ้มคลั่ง หมดสภาพพระโพธิสัตว์ผู้สำรวมไปจนหมดสิ้น ชนิดเกินควบคุมสติ อย่างรุนแรงเข้าแล้ว.

- ซึ่งทุกคนต่างก็ได้เห็น อากับกิริยา ของ พญาราชสีห์ จอมโว ที่ขณะนี้ ได้ออกเที่ยวไล่กัดคนไปทั่ว.

- ซึ่งผมเองดูๆ ไป ก็ไม่ต่างจาก "หมาบ้าเดือนห้า" ที่ถูกอากาศเมืองไทยอันระอุแผดเผา จนอาการบ้าขึ้นสมอง จึงไล่กัดคนไม่เลือกหน้า ดังที่เห็นกันทุกวันนี้.

- สิ่งที่ "พุทธอิสระ". ทำ มันไม่ใช่วิสัยพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดี ที่พึงกระทำแน่นอนครับ.

- เช่น เมื่อฆราวาสญาติโยม ที่ห่วงพระศาสนา เขายื่นขอดีเบตอย่างบัณฑิตวิสัยพึงกระทำ ในประเด็นที่...

"พุทธอิสระไปใส่ความสมเด็จช่วง ด้วยเรื่องเงิน 300 ล้าน ของ พระสังฆราช และ เรื่องพระลิขิต".

- ที่จะจริงหรือปลอมก็ยังไม่รู้นั่น.

- เพื่อให้ยึดหลักฐานที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเขาพิสูจน์ไว้แล้ว ตัดสินไว้แล้ว.

- ว่า มันสิ้นสุดอย่างไร.

- จริงหรือมีการปลอมแปลง.

- เรื่องราว ก็จะได้ข้อยุติ กันสักที สังคมสับสนวุ่นวายมาเกินทนแล้ว.

- นี่อะไร วัน ๆ เห็นเอาแต่ผายลม ปากพ่นกลิ่นเหม็น สำรอกสิ่งโสโครก จนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว โดยไม่ใส่ใจความถูกต้องชอบธรรมใดๆ.

- ชั่งไม่สมคาราคุยเลยจริงๆ.

- ท่านทั้งหลายทราบไหมครับว่า..

-สิ่งที่ได้รับจากการยื่นไมตรีจิต ต่อ พุทธอิสระ ของบัณฑิตฆราวาส คือ อะไร

- คือการถูก พุทธอิสระ ได้เที่ยวไล่แจ้งความ เอาผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยาม ทำให้ พุทธอิสระ ได้รับความอับอายไปโน้น.

- ตรงนี้ ผมก็พาลจะสงสัยครับว่า คนอย่าง พุทธอิสระ นี่นะหรือที่ "รู้จักอับอาย".

- ผมจะบ้าตาย คนอย่าง พุทธอิสระ รู้จักอับอายเป็นกับเขาด้วย เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาของแกนั้นใคร ๆ เขาก็แจ้งทั่วประเทศ.

- ว่าไปแล้ว ดูๆ ไป ก็เหมือนโลกมันชักจะผิดเพี้ยนหมุนกลับหัวกลับหาง ผิดฝาผิดตัว ผิดเหลี่ยมผิดมุม ไปมากแล้วละครับในทุกวันนี้.

- เพราะยุคนี้ เกิดมีคนหัวโล้น รูปชั่วตัวดำ ดันลุกขึ้นมาบอกว่า..

"ตนเป็นพระ นุ่งผ้าเหลือง"
พูดเหมือนกลัวเขาไม่เชื่อว่าตนเองเป็นอะไรกันแน่ เพราะนับวัน ความประพฤติมันตรงข้ามสวรรค์ไปทุกที".

- คนหัวโล้นที่ว่านี้ กลับมีพฤติกรรมผิดจากผู้ทรงศีลทั่วไป เพราะวัน ๆ มัวแต่มานั่งกางกฎหมายโลก ว่าจะเอาผิดใครได้บ้าง ไม่สนกฎหมายธรรมใดๆ ดังอ้างเลย.

- ดูเหมือนทุกลมหายใจ ได้แต่นั่งภาวนาพูดแต่ภาษากฎหมาย ของชาวบ้านทั้งวันทั้งคืน.

- ทั้งยัง ออกมาเล่นละครสวมบทบาท อันธพาลครองเมือง เที่ยว ไล่ฟ้องร้องเอาผิด กับ คนนุ่งผ้าลายไปทั่วเสียอีก.

- ส่วนคนหัวดำ ที่นุ่งผ้าลาย มาวันนี้ กลับกลายเป็นผู้ทรงธรรมมากกว่า.

- เพราะกลับมาทำการอ้อนวอน ขอให้คนหัวโล้น หน้าผีที่ว่าข้างต้นนั้น ให้หันมาพูดคุยกันโดยธรรม โดยวินัย บ้าง มันเป็นชะยังงั้น.

- ดูมันชักจะเพี้ยนใหญ่แล้วครับ โลกทุกวันนี้.
----------------------------------------------------

สรุปว่า

- ณ วันนี้ จะเห็นได้ชัดว่า ภายใต้ผ้าสบง อันสกปรกโสมม ของ พุทธอิสระ ที่สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ได้แอบแฝงกายหลบซ่อนอยู่ เพื่อก่อกรรมทำเข็น ต่อคณะสงฆ์ และสร้างแต่สิ่งชั่วร้ายอยู่ทุกขณะนั้น.

- ก็ขออย่าได้หลงผิดคิดว่า ใครเขาไม่รู้ และไม่กล้าตอแยอีกเลย.

- เพราะว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ ตื่นจากฝันยุคพวกคุณเรืองอำนาจเสียเถอะครับ อย่าเพ้อมากไปกว่านี้เลย.

- เพราะความชั่วครั้งนี้นั้น "มันใหญ่มันแรงนัก" .

- มันก็หาปิดมิดไม่ ถึงคนไม่รู้เทวดาท่านก็เห็น วิญญาณท่านบูรพาจารย์วัดบวรท่านยังไม่ยอมแน่.

- ทุกอย่าง ทุกพฤติกรรม ของท่าน กำลังถูกสังคม ช่วยกันลอกคาบ จับเปลื้องผ้า นำความชั่วออกมาประจานกันหนักขึ้นทุกวันแล้ว.

- และต่อนี้ไป มันก็ไม่ได้รอดพ้น จาก สายชาวบ้านไปเลยเสียแล้ว.

- ถามอีกรอบว่า " เรื่องราวเน่า ๆ ได้ถูกนำมาประจาน มากถึงขนาดนี้แล้ว "ท่าน" ยังมีหน้าอยู่ในสังคมอีกหรือ ท่านไม่อายเขาเลยหรือ
ทั้งท่านหลวงป้า และท่านสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ นะแหละ".

(ส่วนพุทธอิสระผมไม่ถามคำนี้ เพราะคงเลยขั้นนี้ไปไกลแล้ว).

- และการที่จะคิดมาเสี่ยง จะมาแลกหมัด กับ เจ้าคุณเบอร์ลิน อีกนะครับ ถ้า " คิดผิดคิดใหม่ได้ " นะครับ.

- เอาละ ครับ ในวันนี้ ผมขอพูดฝากแก๊งค์ "หลวงป้า" เพียงแค่นี้ ก่อนนะครับ.

- หากขืนพูดมาก อากาศมันร้อน เกิดผมมีน้ำโหขึ้นมา (โมโหแต่กับคนชั่ว) เดี๋ยวจะเบรคเอาไว้ไม่อยู่ แล้ว..

"มันจะพังกันไปหมด".

- อีกอย่าง เดี๋ยว "หลวงป้า" และโยมหญิงแม่ god mother นอกอุทร ก็อาจจะได้ร่วมกันฉลองคดีกันในคุกก่อนกำหนด.

- ในข้อหา เล่นแร่แปรธาตุ โยกเงินหลวง งาบเงินอาจารย์ของตัวเอง ไปเข้า มูลนิธิ ในข้างต้นนั้น ด้วยก็ได้.
--------------------------------------------------------

- ถึงตรงนี้ ผมก็ไม่อยากจะชี้ช่องให้มวลคณะศิษย์ ฝ่ายกฎหมาย ของ วัดพระธรรมกาย ทั้งหลายว่า..

" พวกท่านไม่สนใจ ที่จะเอาเรื่อง โยกเงินพิศดารนี้ไปสอบถาม DSI กันบ้างหรือว่า ..

ไอ้พฤติกรรมสุดชั่ว ของคณะ"หลวงป้า" นี้ ว่า..

"มันเข้าข่าย ฟอกเงินด้วยหรือเปล่า ?
เพราะนี่มัน "จะจะ" ยิ่งกว่า กรณี ของ
หลวงพ่อธัมมชโย
ที่โดน DSI ยัดเยียดคดีแบบหามรุ่งหามค่ำ
เยอะเลย".
--------------------------------------------

ปิดท้าย

- ยังไง ๆ อันเรื่องราวสุดเน่าเหม็น ที่ไม่น่าเชื่อว่า "พระ และคน ที่ดูดีแสนดี ในภายนอก" นั้น แต่ทำไมจึงมีจิตใจสุดชั่วเกินมนุษย์มนาไปได้.

- ถึงตรงนี้ก่อนจบ เมื่อกลุ่ม "หลวงป้า" และสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ที่ผมได้สาธยายมาทั้งหมดในข้างต้นนั้น ถ้าได้มาอ่านเจอโพสต์ตรงนี้ของผมแล้ว.

- ผมก็หวังว่า "จะมีสติ" ขึ้นมาบ้าง.

- ส่วนเมื่อเรียกสติกลับมาแล้ว "จะดันต่อไปให้มันพังราบไปทั้งหมด หรือจะหยุดทำชั่ว เพื่อถอยห่างนรก" ก็ให้เอาไปคิดเอง แก่จะเข้าโลงกันอยู่แล้ว คงคิดดีออกมาบ้างแหละ.

- ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ ว่า "อย่าประมาท เจ้าคุณเบอร์ลิน" พิจารณาดูก็จะเห็นเองว่า ..

- สถานการณ์ตอนนี้มันก็เหมือน "หอกที่ตัวเองเคยใช้เป็นอาวุธทิ่มคณะสงฆ์นั้น บัดนี้ มันหันกลับมาจ่อที่คอหอยตนเองเข้าให้แล้ว".

- ยังไง ๆ ผมก็ขอส่งใจช่วย ขอให้ผ่านเทศกาลวิสาขบูชาปีนี้ ไปก่อนก็ยังดี นะ"หลวงป้า" นะ .

- อย่าให้เรื่องมันบานออกไปมากกว่านี้ ก่อนเวลาเลย.

- เพราะช่วงวิสาขะนั้น จะมีชาวพุทธนานาชาติ เดินทางมาร่วมประชุมกันทั่วโลก.

- ถ้าขืนมีเรื่องถึงโรงถึงศาล กับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ สำหรับพระมหาเถระนิกายเคร่ง ๆ อย่าง"หลวงป้า". แบบนี้ละก็..

"มันยิ่งกว่า ตายทั้งเป็น เสียอีกนะ ผมว่า เพราะลำพังแค่ใบหน้า ก็คงไม่รู้จะไปซุกที่ไหนดีแล้ว".

- อีกอย่างปี 2559 นี้ ผู้เข้าร่วมประชุมคงได้ข้อมูลเน่า ๆ ของ "หลวงป้า" เป็นของแถมกลับประเทศตัวเองเป็นแน่แท้.

- ซ้ำไอ้ที่หวัง "ส้มหล่น" นั้น ก็อาจเลื่อนเป็นชาติหน้าแทนชาตินี้ก็ได้นะครับผม.

- ชาตินี้เอาคดีอมเงินสังฆราชนี้ ไปก่อนก็แล้วกัน นะครับ "หลวงมนุษย์ป้า".

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ

เจ้าคุณเบอร์ลิน

28.04.2016

แนบภาพประกอบ จำนวน ๒ ภาพ.

วิธีป้องกันตัวเองออนไลน์ จากเผด็จการสางเขียว

พิภพ วชรางกูร 


นักเลงลายพรางมันกำลังหาเหยื่อ เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู จากการค้นควานหาในโซเชียลมีเดีย ข้อแนะนำมีดังนี้ ในการปกป้องตัวเอง
1 อย่าออนไลน์โซเชียลมีเดียด้วย ip ของท่านเอง ให้ออนไลน์ผ่าน vpn (ติดตั้งvpnก่อน เปิดvpnแล้วค่อย ออน ไม่เข้าใจหรือไม่เป็นสอบถามจากเพื่อนหรือคนที่เป็น เพื่อคสามปลอดภัยของท่านเอง)


2 อย่า log in เฟสค้างเอาไว้ พยายามเปลี่ยนรหัสให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ ตอนนี้แอนดรอยด์มีให้ใส่รหัสได้สองชั้นแล้ว เอาตรงนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ อย่าดูดาย อย่านิ่งเฉย อย่าคิดว่ายุ่งยาก


3 GPS ไม่จำเป็นก็อย่าเปิดเอาไว้เมื่อออนไลน์โซเชียลครับ นั่นคือการเชื้อเชิญให้มันเข้าถึงตัวท่านได้แม่นยำขึ้น


4 การเปิดเผยหน้าตาแท้จริงบนโซเชียลที่เล่นในเรื่องการเมือง ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง


5 อย่าใช้แอคเคาทน์ที่ท่านเล่นเรื่องการเมืองตืดต่อกับ ญาติ พี่น้อง ลูก ภรรยา เพื่อน หรือผู้ใกล้ชิดของท่าน ผมเคยมีประสพการณ์ตรงแล้วนะครับ ให้แยกแอคเคาทน์ไปเลยและสองแอคเคาทน์นี้ต้องไม่มีความสัมพันธ์กันโดยเด็ดขาด ในเครือข่าย


6 ปกปิดข้อมูลส่วนตัวของท่านให้มากที่สุด โรงเรียนเก่า สถานที่ทำงานจริง อย่าลงรายละเอียดโดยเด็ดขาด


7 ทุกครั้งที่ออนไลน์บนเครือข่ายสาธารณะ free wifi อย่าใส่รายลพเอียดของท่าน (ยิ่งของรัฐใช้ฟรียิ่งไม่ควรใช้)


8 การโพสต์ของท่าน ควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เห็นเฉพาะเพื่อน เท่านั้น และการรับแอดเพื่อน ก่อนที่จะรับแอด เข้าไปตรวจโปรไฟล์ของบุคคลที่จะเข้ามาแอดเพื่อนท่านให้ละเอียด ลักษณะการโพสต์ของบุคคลนั้น มันปรกติหรือไม่ เพื่อนในลิสต์ของบุคคลที่จะเข้ามแอดเป็นเพื่อนท่านด้วย อย่ามองข้ามแอดเพื่อนเยอะๆ แอดเอามันส์อย่าง้ดียวนะครับ อันตราย 

 
9 การแชท ถ้าใครที่ใช้พีซีออนเฟส ให้ปิดการแชทเอาไว้ แม้เซิฟเวอร์แชทของเฟส จะเป็นเซิฟเวอร์แยก แต่การเปิดบริการแชทเอาไว้นั้น ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงเซิฟเวอร์หลักของท่านได้ง่ายขึ้น


10 ข้อนี้ไม่มีอะไร เขียนเพราะไม่อยากให้มันมี9 ข้อเท่านั้นเอง แหะๆ

"ความซับซ้อนลึกล้ำของแนวทางมดแดงล้มช้าง Sophisticated Nature of UNRAD " โดย ดร. เพียงดิน รักไทย

"ความซับซ้อนลึกล้ำของแนวทางมดแดงล้มช้าง  Sophisticated Nature of UNRAD "  โดย ดร.  เพียงดิน รักไทย

https://youtu.be/VaChMw6cFAM ห้องสมุดมหาวิทยาลัยประชาชน

https://youtu.be/CRwe1RlKDx0 มดแดงล้มช้าง Official

https://youtu.be/Y9KZTassLVU คณะราษฎรมดแดงล้มช้าง

https://youtu.be/HrEkyYVkGjE ดร. เพียงดิน รักไทย Official




Thursday, April 28, 2016

สรุปหัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

 


หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง

 

สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ

 

สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)

 

สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง กลไกและเครื่องมือต่าง ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ

(วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ

 

ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง

 

หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภาววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)

 

เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง

 

แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน

 

เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภาววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด

 

สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด

 

ลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn

ดร. เพียงดิน รักไทย

25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554)

"เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง ราษฎรเสรีไทย" โดย ดร. เพียงดิน รักไทย

"เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง ราษฎรเสรีไทย"
โดย ดร. เพียงดิน รักไทย

First Draft (January 21, 2015)


ขอให้พี่น้องที่สนใจ ร่วมแต่งเติม วิพากษ์ และแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับ
ขอนั่งคิดดัง ๆ เรื่องทิศทางข้างหน้านะครับ ขบวนปฏิวัติในใจผม จะมีเป้าหมายระดับต่าง ๆ ปน ๆ กันดังนี้ และเมื่อกรอบยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ เหล่านี้ เข้าที่เข้าทางแล้ว ก็จะมีการจัดการเพื่อให้เกิดผลทั้งในภาวะปัจจุบัน ระยะการเปลี่ยนอำนาจ ระยะเปลี่ยนผ่าน และการวางรากฐานถาวรต่อไป

หนึ่ง กำจัดอำนาจกษัตริย์ที่ยุ่งกับการเมืองการปกครองอย่างสิ้นเชิง หากยอมอยู่แบบอังกฤษหรือญี่ปุ่น (ควรจะน้อยกว่าด้วย) ไม่ได้ ก็ไม่ต้องมีสถาบันกษัตริย์ การปกครองจะไม่ใช่ Constitutional Monarchy แต่จะเป็น People's Democratic State หรือ Republic เท่านั้น ไม่มีสร้อย

สอง อำนาจกษัตริย์ที่มีอยู่ในเชิงเศรษฐกิจ การทหาร การปกครอง วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา และอื่น ๆ จะต้องถูกตัดออกให้สิ้น ยกตัวอย่าง เช่น ทรัพย์สินที่มีอยู่จะต้องตกเป็นของแผ่นดิน จะเอาไปเป็นของส่วนตัวไม่ได้ การลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ทุกระดับ จะต้องถูกดึงมาเป็นของหน่วยงานรัฐ ที่ให้ผลประโยชน์คืนกลับเป็นเงินภาษีอากรของประชาชให้หมด โดยการกินอยู่ จะมีการจัดการให้สมกับฐานะ และต้องตัดองคมนตรี และข้ารับใช้ที่รกรุงรังออกไปให้หมด โครงการหลวงต่าง ๆ จะต้องถูกถ่ายโอนไปให้ตัวแทนฝ่ายบริหารรับผิดชอบต่อไป ฯลฯ

สาม การรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ และจะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมได้อีก โทษของผู้ก่อการและสนับสนุน จะต้องสูงถึงขั้นประหารชีวิต และรัฐบาลเฉพาะกิจจะลงสัตยาบันรับธรรมนูญกรุงโรม เพื่อรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศโดยด่วนทันที

สี่ สัมปทานน้ำมันและทรัพยากรอื่น ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จะต้องถูกเรียกคืนและพิจารณาใหม่ทั้งหมด หากต้องจ่ายชดเชยคืนก็ทำไป เพื่อให้สัปทานต่าง ๆ ผ่านขั้นตอนโดยตัวแทนของประชาชน ที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรแห่งชาติจะเป็นผู้พิจารณาขั้น ตอนการดำเนินงานและการตัดสินผลประโยชน์เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดเกิดขึ้นกับ ประชาชนและประเทศชาติ

ห้า จะต้องมีการปฏิวัติวัฒนธรรม ศาสนา และการศึกษาขนานใหญ่ เพื่อให้ความงมงายและความเป็นไทยที่เป็นพิษที่ซ่อนอยู่ในสังคมไทยถูกถอนออก ไปให้หมด เพื่อให้พลเมืองไทยยกระดับเป็นอารยชน และสามารถพัฒนาศักยภาพของตนให้สูงสุด เพื่อแข่งขันและอยู่ร่วมกับชาวโลกอย่างสันติสุขและก้าวหน้าอย่างดีที่สุด

หก ที่ดินและการจัดเก็บภาษีแบบก้าวหน้าที่คนรวยทรัพย์สินเงินทอง จะต้องเสียภาษีให้มาก จะต้องถูกปฏิวัติใหม่ เพื่อให้เกิดการกระจายพื้นฐานการผลิตและโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งให้กับ ปัจเจกชนและชาติโดยรวม คนทั่วประเทศจะต้องอยู่ดีกินดี ให้สมกับการเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์บนชัยภูมิที่ได้เปรียบ

เจ็ด โครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลเผด็จการศักดินาราชาธิปไตยได้ทำไว้ จะถูกแขวนไว้ทั้งหมด แล้วจัดให้มีการเจรจาใหม่ทั้งหมด เพื่อหาทางแก้ไขการเสียเปรียบและดำเนินการใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประเทศชาติ

แปด จะพัฒนาการศึกษาไทย เพื่อเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาโลก โดยยกเอาความสำเร็จของประเทศที่ได้กำไรจากการเป็นศูนย์กลางการศึกษาเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น เป้าหมายระยะสั้น ภายในห้าปี ประเทศไทยจะต้องมีดัชนีด้านการศึกษาเป็นสามอันดับต้นของอาเซี่ยน

เก้า สังคมไทยจะต้องถูกปฏิวัติให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมเปิดเพื่อการเข้าใจสังคมเพื่อบ้านและสังคมโลก การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการประยุกต์สังคมพุทธและจุดแข็งของสังคมไทย ให้เข้ากับหลักสากล โดยมีการศึกษาวิจัยแล้วกำหนดเป็นเป้าหมายเชิงคุณภาพของพลเมืองไทยอย่าง ชัดเจน เพื่อเป็นวาระแห่งชาติ แล้วใช้ทุกปัจจัยทุ่มพัฒนาให้เกิดผลที่จับต้องได้ในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว

สิบ หลักการประชาธิปไตยแบบสากล จะต้องถูกนำมาเป็นเสาหลักของประเทศชาติ สืบทอดไปถึงลูกหลานอย่างสมบูรณ์แบบ การให้การศึกษาแก่พลเมืองทุกหมู่เหล่า ถึงผลดีของการเป็นสังคมประชาธิปไตยและหน้าที่ที่ประชาชนจักพึงมี และอื่น ๆ จะต้องทำอย่างเป็นระบบ สิ่งที่ผ่านมาจะต้องถูกนำมาสรุปเป็นบทเรียน เพื่อให้การปฏิวัติเกิดผลอย่างเด็ดขาด ไม่ให้วงจรอุบาทว์กลับมาทำร้ายประเทศไทยได้อีก

สิบเอ็ด การจัดการกับคอรัปชั่นจะต้องทำอย่างจริงจัง โดยประชาชนจะต้องมีบทบาทในการร่วกำกับอย่างเป็นแก่นสาร ระบบราชการทั้งพลเรือน ทหารตำรวจ และการเมือง จะต้องถูกปฏิวัติเพื่อตัดกลไกการคอรัปชั่นอย่างถึงรากถึงโคน

สิบสอง ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เน้นการค้าขายและร่วมมือกับทุกประเทศ การให้เกียรติและปกป้องมิตรประเทศให้ทำมาหากินอย่างมั่นใจจะถือเป็นภารกิจ สำคัญ โดยไม่ให้ประเทศไทยเสียเปรียบใคร
สิบสาม ประเทศไทยจะต้องวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการ การแพทย์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและส่งเสริมธรรมชาติ การเป็นครัวโลก การสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงวัย ฯลฯ โดยจะต้องทุ่มทุนให้กับการวิจัยและการวางแผนเพื่อความเป็นเลิศในทุกด้าน เพื่อต่อยอดจุดแข็งทุกจุดของชาติ

สิบสี่ จะต้องมีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการลงทุนด้านพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ อย่างจริงจัง โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมูลค่าจากการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้งบประมาณการบริหารประเทศไทยต้องเพิ่มเป็นสองเท่าของงบประจำปี ปัจจุบัน คืออย่างน้อย ต้องมีเงินบริหารประเทศปีละ 4 ล้านล้านบาทเป็นเบื้องต้น ในเวลาไม่เกินสองปี
สิบห้า เมื่อคณะปฏิวัติประชาชนได้อำนาจมาแล้ว จะต้องนิรโทษกรรมคนไทยทุกหมู่เหล่า โดยอาศัยประชามติของประชาชนไทย หลังจากที่มีการตัดสินอย่างเป็นธรรมแล้ว และผู้กระทำความผิดได้แสดงออกอย่างชัดเจนในที่สาธารณะแล้วว่า สำนึกผิดแล้ว..

สิบห้า เมื่อคณะปฏิวัติประชาชนได้อำนาจมาแล้ว จะต้องนิรโทษกรรมคนไทยทุกหมู่เหล่า โดยอาศัยประชามติของประชาชนไทย หลังจากที่มีการตัดสินอย่างเป็นธรรมแล้ว และผู้กระทำความผิดได้แสดงออกอย่างชัดเจนในที่สาธารณะแล้วว่า สำนึกผิดแล้ว และคณะปฏิวัติจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมและอนุมัติกรอบการบริหารประเทศร่วม กันโดยเร็วภายในไม่เกินสองปี และจะต้องให้ทุกเรื่องเข้าที่เข้าทางและมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถาวรเพื่อ เป็นเสาหลักที่มั่นคงในที่สุด

นอกเหนือจากนี้ ควรให้ประชาชนที่เป็นแนวร่วมการปฏิวัติเปลี่ยนระบอบ ได้มีส่วนร่วมรับรู้และปรับปรุงหรือแต่งเติมเป้าหมายการปฏิวัติข้างบนให้มาก ที่สุดนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

กลุ่มศึกษา แนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง's photo.

Wednesday, April 27, 2016

ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เชิญชวนคนไทยรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่เข้าข่ายฆาตกรรมต่อมวลมนุษยชาติ

ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เชิญชวนคนไทยรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่เข้าข่ายฆาตกรรมต่อมวลมนุษยชาติ

เนื่องจากการกระทำของเครือข่ายเผด็จการไทย ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงการเข้าข่ายฆาตกรรมต่อมวลมนุษยชาติ
ดังนั้น จึงขอให้ท่านอ่านคำอธิบายข้างล่างนี้ ซึ่งแปลมาจากเว็บเพจของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) แล้วช่วยกันรายงานกรณีต่าง ๆ เพื่อเก็บเป็นหลักฐานไว้สำหรับการฟ้องร้องเอาผิดต่อผู้สั่งการและผู้ปฏิบัติงานทุกระดับต่อไป
____________________________
What are crimes against humanity?
ฆาตกรรมต่อมวลมนุษยชาติ คืออะไร?

"Crimes against humanity" include any of the following acts committed as part of a widespread or systematic attack directed against any civilian population, with knowledge of the attack:
ฆาตกรรมต่อมวลมนุษยชาติ รวมถึงการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ ที่ถูกทำให้เกิดขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของการมุ่งทำร้ายอย่างกว้างขวางและเป็นระบบต่อประชากรที่เป็นพลเรือนอย่างตั้งใจ
• murder; การฆาตกรรม
• extermination; การล้างเผ่าพันธุ์
• enslavement; การบังคับให้อยู่ในสภาพเสมือนทาส หรือทาส
• deportation or forcible transfer of population; การขับคนออกจากประเทศ หรือการบังคับให้มีการเคลื่อนย้ายชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
• imprisonment; การกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือจำคุก
• torture; การทรมาณ
• rape, sexual slavery, enforced prostitution, forced pregnancy, enforced sterilization, or any other form of sexual violence of comparable gravity; การข่มขืน การบังคับให้เป็นทาสทางเพศ การบังคับให้เป็นโสเภณี การบังคับให้ต้องตั้งครรภ์ การบังคับทำหมัน หรือรูปแบบหนึ่งใดของความรุนแรงทางเพศที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันนี้
• persecution against an identifiable group on political, racial, national, ethnic, cultural, religious or gender grounds; การมุ่งร้ายหมายโทษต่อกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างจงใจ บนฐานของความคิดทางการเมือง ชาติพันธุ์ สัญชาติ เผ่าพันธุ์ วัฒนธรรม ศาสนา หรือเพศ
• enforced disappearance of persons; การบังคับ จับกุมอุ้มบุคคลไปอย่างลึกลับ
• the crime of apartheid; ฆาตกรรมอันเป็นการแบ่งแยกสีผิว
• other inhumane acts of a similar character intentionally causing great suffering or serious bodily or mental injury. การกระทำอันไร้มนุษยธรรมอืน ๆ ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กัน ที่จงใจก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาณอันแสนสาหัส หรือการเจ็บปวดทางร่างกายหรือจิตใจ
แปลจากข้อความจากเว็บเพจของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)

กรุณาแจ้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เข้าข่ายฆาตกรรมต่อมวลมนุษยชาติทุกชนิด ไปยังภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ไปที่ ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ตามแบบฟอร์มผ่านลิ้งค์นี้ http://goo.gl/forms/T2BdWXWHJy

ข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อไม่ให้ท่านผู้รายงานได้รับอันตรายใด ๆ


สัมภาษณ์น้องปั๊ป “กรกนก คำตา” จำเลยคดีนั่งรถไฟจะไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์

ราชาธิปไตย ถึงทางตัน และระเบิดเวลา 5 ลูก ที่ใกล้ระเบิด!! โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 28 เมษายน 2559

ราชาธิปไตย ถึงทางตัน และระเบิดเวลา  5 ลูก ที่ใกล้ระเบิด!!
โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 28 เมษายน  2559

https://youtu.be/2ZUQbTdTrM0 (ห้องสมุดมหาวิทยาลัยประชาชน)

https://youtu.be/WT4pRpQS0fE มดแดงล้มช้าง

https://youtu.be/-B-XC_zOgjI (ดร.เพียงดิน Official)

 



---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ที่ http://tinyurl.com/gsetacg

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

 

 

Trump Talks Foreign Policy จะทำให้การทหารยิ่งใหญ่คับโลก และสร้างอเมริกันยิ่งใหญ่ด้านเศรษฐกิจด้วย

Trump Talks Foreign Policy จะทำให้การทหารยิ่งใหญ่คับโลก และสร้างอเมริกันยิ่งใหญ่ด้านเศรษฐกิจด้วย

Download

ซีเรียรบเดือด 24 ชม. มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก



Download

Tuesday, April 26, 2016

ทำไม ดร. เพียงดิน รักไทย จึงเก็บรายชื่อเครือข่ายมดแดงล้มช้าง?​ หน่อมแน้มจริงหรือ?

ทำไม ดร. เพียงดิน รักไทย จึงเก็บรายชื่อเครือข่ายมดแดงล้มช้าง?​ หน่อมแน้มจริงหรือ?

https://youtu.be/KxY1iQ31fAI

https://youtu.be/_CmKLcS2Rd4

https://youtu.be/t9trfBYCXtw

https://youtu.be/F_Zi92JDgCo

https://youtu.be/Cic-ySCEXpU

 

---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ที่ http://tinyurl.com/gsetacg

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

ศึกนี้ ท่าจะใหญ่ เมื่อทัพธรรมกาย พร้อมลุย ปกป้องศาสนาพุทธ!!!



Download

ข่าวด่วน! ม๊อบกปปส.เล่นสกปรก เอาผ้าเหลืองมาบังหน้าเพื่อก่อการร้าย! (ข่าวส่งมาทางไลน์)

ข่าวด่วน! ม๊อบกปปส.เล่นสกปรก เอาผ้าเหลืองมาบังหน้าเพื่อก่อการร้าย! ช่วยแชร์ด่วนด้วยครับ สายข่าวแจ้งให้ผมทราบหลังห้องเมื่อสักครู่ว่า ขณะนี้ มีม๊อบกปปส.ไปขอซื้อจีวรพระในราคาถูกจำนวนมากหลายพื้นที่ จนที่เป็นที่สงสัย สืบไปสืบมาได้ความว่า พวกนี้จะนำจีวรไปให้พวกม๊อบฮาร์ดคอร์ใส่เพื่อปลอมบวชเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการก่อการร้าย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโรฮินยาที่เทือกเลี้ยงเอาไว้ในสวนปาล์ม สังเกตให้ดีนะครับ พวกนี้มาในคราบนักบวชแต่หน้าตาไม่ค่อยเหมือนคนไทยออกไปทางแขก แผนของเขาก็คือพวกนักบวชเหล่านี้จะพวกพาพวกอาวุธหนักไว้ในย่ามสามารถก่อการร้ายได้ทุกที่โดยคนไม่สงสัย เมื่อมีเหตุปะทะกัน จะใช้นักบวชนำหน้า เมื่อมีเหตุผิดพลาดก็จะลงข่าวว่า ตำรวจทำร้ายพระสงฆ์ ฝากเพื่อนๆช่วยแชร์แผนการชั่วช้าของม๊อบกปปส.

มาร ตัวแม่ มีหน้าที่ถือหอกคอยทิ่มแทง พระพุทธศาสนา???

มาร ตัวแม่ ที่ทุกท่านอาจจะไม่เชื่อว่า นางมีหน้าที่ถือหอกคอยทิ่มแทง พระพุทธศาสนา ............ !!! นางมารร้ายนี้ชื่อ " อังกาบ บุณยัษฐิติ "

-
ท่านเชื่อหรือไม่ว่า การล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำเป็นกันขบวนและจัดตั้งแบ่งสายงานออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน "อังกาบ" ก็เป็นหนึ่งขบวนการ

-
และทั้งหมดของขบวนการ ไม่ใช่แค่ต้องการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เท่านั้น หากแต่ ต้องการล้มระบอบ ประชาธิปไตย อีกด้วย

-
ใครคือผู้สนันสนุนอย่างเป็นทางการ เราคงปฏิเสธไม่ได้ ว่าคนที่ต้องล้มระบอบประชาธิปไตยเป็น คนๆเดียวกันกับคนที่ต้องการล่มสลายของระบอบประชาธิปไตย ให้ได้ หากแต่.............. พวกเขาเหล่านั้นไม่ไ้คำนึงถึงผลพวงที่จะได้รับ มีคำถามๆ ว่า
-
พวกเขาทำเพื่อใคร ...........?
-
พวกเขาทำแล้วได้อะไร .............. ?
-
และทำไม พวกเขาถึงกล้าที่จะทำ ............?
-
ถ้า........ผมบอกความจริงแล้วพี่น้อง ที่กำลังอ่านอยู่ ตอนนี้ จะเชื่อผมไหม ว่า พวกเขาเชื่ออย่า งงงายกับ โหราศาสตร์มาก ๆจน พวกเขาทำทุกอย่างได้อย่างไร้ซึ่งเหตุและผล
-
พวกเขาเชื่อว่า อีกไม่เกิน 3 อาทิตย์ข้างหน้า เป็นอาทิตย์สุดท้าย ที่จะต้องล้ม ธรรมกายให้ได้ ตามโหราศาสตร์ที่ " อังกาบ บุณยัษฐิติ " มันดูไว้ มันเชื่อโหราศาสตร์มาก และต้องจัดการธรรมกายให้ได้ภายในพฤษภาคม นี้
-
วันนี้ หลังมีข่าวศาลออกหมายจับ พระธัมมชโย ด้วยข้อหาสารพัด ผมเองก็งง กับระบบ ยุติธรรมของไทย และต่อมา ศาลก็ออกมาให้ข่าวว่า บอกให้เวลา พระธัมมชโย อีก 15 วัน ให้มารายงานตัว
-
ในขณะที่ ศาลอาญายกคำร้องดีเอสไอไม่ออกหมายจับ พระธัมมชโย โดยชี้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาไม่มีเจตนาหลบหนี
-
แต่ความเป็นจริงคือ คือมีคำสั่งให้นำกองกำลังของทหารเข้าประจำการ ที่ธรรมศาสตร์ รังสิต และมีกระจายข่าวลับ เข้าปะปนกับ ญาติโยมที่เดินทางมาที่วัดธรรมกาย และก่อนหน้านี้ ทรราช คสช. ก็อนุมัติ ทหารกว่า 500 คน ให้ โล้นสุวิย์ แห่งวัดอ้อน้อย หรือผู้ประสานงาน ของ กปปส. ที่คุมแจ้งวัฒนะ มาก่อน มีผลงานรับลูกส่งลูก เป็นไปอย่างมีระบบ เพราะเป็นนายสิบจากค่าย บูรพาสุนัขเหมือนกันกับ ทรราชประวิตร ทรราชประยุทธ์

งานนี้ไม่ธรรมดา "ไอ้ตูบ" ทรราชประยุทธ์ ลั่น ยึดกฎหมาย หลังดีเอสไอเตรียมออกหมายจับ "พระธัมมชโย"

http://www.matichon.co.th/news/118231

-

ส่วนเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ยืนยัน เจ้าอาวาสอยู่วัด ป่วยจริง ด้านเลขาธิการกลุ่มนักกฎหมายอาสาฯชี้ การออกหมายจับต้องมีเหตุผลและคุ้มครองสิทธิของประชาชนด้วย

https://www.facebook.com/tv24newsroom/videos/625964897550665/
-
หากมองภาพรวม ทรราช คสช.และอังกาบ ประสานเสียงเดียวกันคือ ต้องล้ม ธรรมกาย ให้ได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
-
ในเมื่อ อังกาบเขื่อหมอดู เราก็มาดูหมอดู ของฝ่ายประชาธิปไตยดูบ้างว่า เขากล่าวไว้ว่าอย่างไร

---

ประเทศไทย ณ.ปัจจุบันสังคมอยู่อยาก จริงหรือ ประเทศจะถึงกาลวิบัติ แล้วหรือ หากมอง คำทำนายของหมอดู E.T. น่าจะมีความเป็นจริง โดย หมอดู E.T.ได้ระบุว่าปลายปี 59 ผู้ครองอำนาจในประเทศจะล่มสลาย
-
ล่มสลายโดยอะไร โดยพฤติกรรมของตนเองและพวกพ้อง
-
องคาพยพที่รวมหัวกัน ปล้นอำนาจประชาชน ปล้นเงินพระ ทำลายศาสนา
ไม่สนใจประชาชน ตั้งตนเป็นใหญ่ นิสัยอันธพาล
-
เข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง ค้าขายแย่ คนตกงาน ฝนแล้ง ชาวนา ชาวสวนลำบาก คนหาเช้ากินค่ำ ได้กินดึก คนทำงานหนี้พุ่ง
-
รัฐบาลบริหารไม่เอาถ่าน เห็นแต่ผลประโยชน์พวกพ้อง ไม่ฟังเสียงประปราชน สิทธิเสรีภาพพลเมืองโดนจำกัด
-
คนหิวมากขึ้น คนจนมากขึ้น ตอนนั้นสภาพจิตใจสภาพความอดทนทุกคนหมดแล้วพร้อมใจกันเดินออกมากลางถนนเพื่อทวงถามความยุติธรรม
-
เมื่อนั้นกาลียุคของจริงและจำนวนคนที่ออกมาขับไล่จะเป็นจำนวนมหาศาลมากว่าพฤษภาทมิฬปี 35 มากกว่า พ.ค ปี 53 หลายเท่าตัว
-
เพราะเป็นการไล่ที่หมดความอดทนกับผู้ปกครองทรราช และความแร้นแค้นแสนสาหัสทั่วไปทั้งประเทศ .....
-
โปรดก๊อปข้อความนี้ไว้ เพราะมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ในปลายปีนี้ นี้
-
หากเรามองถึงเหตุและผล ความเป็นไปได้สูง ๆ พอที่จะนำประชาชนผู้ทุกข์ยาก ให้ใหลมารวมกัน จากผลการกระทำ ของกลุ่มที่ต้องการล้มระบอบประชาธิปไตย
-
วันนี้ ทรราช คสช. ไม่ได้แค่สร้างปัญหาระหว่าง รัฐ กับ ประชาชนเท่านั้น แม้แต่ในวงการสีกากีเอง ทรราช คสช. ก็สร้างปัญหา ข้ามหัวข้ามทุ่ง สั่งย้ายนายตำรวจเป็นว่าเล่น และเปิดไฟเขียวให้ ผบ.ตร. แต่งตั้ง ได้โดยไม่ต้องผ่าน กตร. เหมือนธรรมเนียมปฏิบัติ ดั่งที่เคยทำมา ด้วยอำนาจของ ทรราช ประวิทย์
-
ย้อนกลับมาที่ นางมารร้ายนี้ชื่อ " อังกาบ บุณยัษฐิติ " ( ท่านผุ้หญิง)
-

มีผู้เขียน ลงชื่อท้ายจดหมายเปิดผนึก ว่า นิยตะ แจ้งความประสงค์ขอร้องไว้แค่ 3 ข้อ ให้นางมารร้าย อังอาบ ว่า ( ผมได้คัดลอกมาแค่ บางส่วนเท่านั้น)

------

1. ขอให้ท่านผู้หญิง ลอยแพ พุทธอิสระ
ไพบูลย์ นพ.มโน กับพวก รวมทั้ง
แจ้งระงับหนังสือพิมพ์ในเครือข่าย
โดยเฉพาะตัวดี อย่าง นสพ.แนวหน้า
ให้หยุดสร้างกระแส หยุดจาบจ้วงพระผู้ใหญ่
ผู้เป็นที่ศรัทธาของมหาชน

-
2. ขอให้ท่านผู้หญิง บอกพวก DSI ไปว่า
อย่ามายุ่งกับวงการสงฆ์อีก

-
3. ขอให้ท่านผู้หญิง อาราธนานิมนต์ มหาเถรสมาคม
ให้ทำอุกเขปนียกรรม ต่อ พุทธอิสระ เสียให้เรียบร้อย
เปิดทางให้เขาลาสิกขา สมดังที่เขาได้ ปวารณาไว้เอง
-

-------------------------------------------------------------------------------------

นั้นคือ สิ่งที่ได้รวบรวมมาให้ พี่น้องได้รับรู้ถึง แผนชั่วของ พวกทรราช คสช. และนางมารร้าย อังกาบ ทราบโดยทั่วกัน

-

เสรีชน

The Organization for FreeThais for Human Rights and Democracy - OFHD's photo.

เมื่อเมืองไทยไร้ป่า โดย วสิษฐ เดชกุญชร

เมื่อเมืองไทยไร้ป่า โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ประยุทธ์

เครดิต มติชนออนไลน์


ผมเห็นใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาร้อยแปดพันเก้านับตั้งแต่ทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครอง และเข้าไปบริหารงานบ้านเมืองตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2557 เป็นต้นมา เมืองไทยในขณะนั้น (และขณะนี้) หากเปรียบกับคนก็กำลังเป็นคนไข้หนักด้วยโรคเรื้อรังหลายโรค ไม่ว่าจะแตะตรงไหนก็พบว่าเจ็บป่วยตรงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้พยายามแก้ปัญหาทั้งหลายด้วยอุบายต่างๆ เริ่มด้วยการใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่แล้วตามปกติ ปัญหาใดที่เห็นว่าไม่สามารถจะคอยให้มาตรการทางกฎหมายธรรมดาปรากฏผล ก็ใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแก้ปัญหานั้น แม้กระนั้นปัญหาก็ยังมิได้ลดน้อยถอยลง เพราะปัญหาใหญ่อื่นๆ ที่คอยการแก้ไขก็ยังมีอยู่อีกเป็นอันมาก

ปัญหาสำคัญและเร่งด่วนอีก ปัญหาหนึ่งคือปัญหาป่าไม้ของเมืองไทยซึ่งปรากฏตามสถิติของกรมป่าไม้ว่าถูก รุกและทำลายอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี พ.ศ.2555 ป่าถูกรุกเป็นพื้นที่ 43,539 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 1,096,112,407 ล้านบาท ปี พ.ศ.2556 ป่าถูกรุก 36,998 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 3,444,343,610 ล้านบาท และในปี พ.ศ.2557 ป่าถูกรุกเป็นพื้นที่ 81,962 ไร่ และยังไม่มีการประเมินมูลค่าความเสียหาย

ป่า ไม้ที่ถูกรุกเหล่านี้ถูกทำลายลงเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางและข้าวโพด และเป็นต้นน้ำที่เลี้ยงป่าในหลายจังหวัดในภาคเหนือเป็นเนื้อที่มหาศาล เช่น ลุ่มน้ำป่าสัก 800,000 ไร่ ลุ่มน้ำวัง (อำเภอเถิน จังหวัดตาก) 300,000 ไร่ ลุ่มน้ำยม (ในอำเภองาว จังหวัดลำปาง) 400,000 ไร่ ลุ่มน้ำปิง (จังหวัดตาก) 450,000 ไร่ ลุ่มน้ำน่าน 1,800,000 ไร่ และลุ่มน้ำปิง (อำเภออมก๋อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน) 120,000 ไร่ เมื่อถูกถางและทำลายลงจนเตียนโล่ง ผลกระทบที่ได้รับทันทีก็คือไม่มีต้นไม้ที่จะรองรับและขังน้ำจากฝนที่ตกลงมา น้ำฝนไหลลงสู่ลุ่มน้ำในที่ต่ำโดยปราศจากการควบคุม เป็นเหตุให้น้ำท่วมอย่างมหาศาลและรุนแรง พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหาย ครั้นเมื่อน้ำไหลผ่านไปแล้วพื้นดินก็แห้งแล้ง ไม่สามารถจะเพาะปลูกอะไรได้ ขณะที่เขียนเรื่องนี้ แม่น้ำบางสายเช่นแม่น้ำยม ตั้งแต่ในเขตอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ลงไปจนถึงเขตอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร น้ำเหือดแห้งจนใช้เป็นสนามกีฬาและสนามเด็กเล่นได้ ผลกระทบอีกอย่างหนึ่งก็คือไม่มีน้ำสำหรับผลิตน้ำประปา ชาวบ้านต้องอาศัยน้ำบ่อดื่มและใช้สอยแทน

การรุกและทำลายป่านั้นมิใช่ เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว และเกิดโดยเจ้าหน้าที่ราชการที่เกี่ยวข้องรู้เห็นแต่ปล่อยปละละเลย และในหลายกรณีร่วมมือกับผู้รุกและทำลายป่าด้วย ทั้งโดยถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ในหลายพื้นปัญหาแทรกซ้อนที่ตามมาหลังจากการรุกและทำลายป่าก็คือ ชาวบ้านใช้เผาทำลายป่าเพื่อให้ได้พื้นที่เพาะปลูก ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นควันรุนแรงในบางจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย กระทบถึงสุขภาพของประชาชนในจังหวัดนั้นๆ ด้วย

ขณะนี้ไม่ปรากฏชัดว่า ทางราชการถือว่าปัญหานี้เป็นปัญหารีบด่วนที่จะต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุดเท่า ที่จะทำได้ แต่ดูเหมือนทางราชการจะใช้วิธีประชุมหารือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ ปัญหาการเพาะปลูก ซึ่งเป็นปลายเหตุ ส่วนต้นตอของปัญหาคือการรุกและทำลายป่านั้น ยังไม่ได้ยินว่าใครคิดจะแก้ไขอย่างไร

อ่านต่อที่ 

http://www.matichon.co.th/news/117607