ศาลไทยทำงามหน้าอีกแล้ว เอากฎหมายมาปิดปากประชาชน
วันอังคาร 8 กันยายน 2009
Thailand judiciary further discredits itself with harsh lese majesty sentence against protestor
September 6, 2009
ที่มา – Jurist (School of Law, University of Pittsburgh)
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑
นาย
ออซาร์ ธิ (สมาชิกของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเซีย ฮ่องกง)
กล่าวว่า: “เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ศาลประเทศไทยคลืบคลานเข้าใกล้ประเทศเพื่อนบ้านคู่แข่งอย่างพม่าเข้าไปทุกที
เมื่อได้มีคำวินิจฉัยให้ผู้ประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารถูกตัดสินจำคุกถึง
๑๘ ปี ศาลอาญากรุงเทพตัดสินว่าดารณี ชาญเชิงศิลปกุล กระทำผิดกฎหมายหมิ่นฯ ๓
กระทง จากคำปราศัยในการชุมนุมเพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรีทักษิณ
ชินวัตรที่ถูกปล้นอำนาจ ในคำปราศรัย ดารณีได้พาดพิงการทำรัฐประหารปี
พ.ศ.๒๕๔๙ ว่าเกี่ยวข้องกับพระราชวัง
และยังเปรียบเทียบเหตุการณ์ระหว่างประเทศไทย
และชะตากรรมของราชวงศ์ในประเทศเนปาล ซึ่งถูกโค่นล้มไปในปี พ.ศ.๒๕๕๑
หลังจากได้ถูกประชาชนทำการลุกฮือขับไล่”
ข้อกล่าวหา
ต่างๆต่อดารณีนั้นเนื่องมาจากการร้องเรียนของสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณซึ่งมีทหารให้การช่วยเหลือเมื่อปีที่แล้ว
ได้ยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลาสามเดือน ยึดสนามบินประมาณหนึ่งอาทิตย์
ทุกๆคนทั้งสนธิ และผู้ร่วมปฎิบัติการกลับไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ
จากการกระทำอันเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างรุนแรง รวมถึงการทำร้าย
และข้อกล่าวหาว่าทำฆาตกรรม
ทำลายและขโมยทรัพย์สินส่วนราชการและส่วนเอกชนอย่างยับเยิน
ในขณะที่ศาลกลับพุ่งเป้าหมายไปแต่ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้อกล่าวหาว่า
เป็นอาชญากรทางความคิดและทางคำพูด
ส่วนสนธิและพันธมิตรยังคงสำรากด้วยวาจาที่สามหาวกระจายเสียงออกอากาศ
และทางสื่ออินเตอร์เน็ตต่อไป
ผู้พิพากษา
แสร้งทำเป็นพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม ศาลปฎิเสธการขอประกันตัวถึง ๓ ครั้ง
ตามรายงานข่าวว่า เนื่องจากศาลเกรงว่า
การปล่อยตัวดารณีจะกระทบกับความรู้สึกที่อ่อนไหวของประชาชน
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขี้นภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลสั่งพิจารณาคดีแบบปิดด้วยเหตุผลในเรื่องความมั่นคงของชาติ
ด้วยเหตุผลเช่นนี้หรือ
แม้แต่ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายยังมีการพิจารณาคดีแบบเปิดเลย
มันยากที่จะพิสูจน์ว่า
การคุกคามอย่างรุนแรงที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างอดีตนักข่าววัย ๔๖
ปีนี้มันจะเป็นภัยที่ตรงไหน ถึงเธอจะมีชื่อเล่นว่า “ดา ตอร์ปิโด” ก็เถอะ
เหตุผลจริงๆที่น่าเป็นไปได้ในการปิดประตูพิจารณาคดีก็เพื่อกันผู้ต้องหา
ทำการสู้คดี จำเลยในคดีหมิ่นฯตามปกติแล้วจะยอมรับผิด ยอมรับการตัดสิน
และจากนั้นก็ทำเรื่องยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ
และได้รับการพระราชทานอภัยโทษในที่สุด ดารณีไม่ยอมทำอย่างนั้น
เธอบอกนักข่าวทั้งหลายว่า เธอจะยื่นอุทธรณ์
......
อ่านส่วนที่เหลือที่
https://liberalthai.wordpress.com/2009/09/08/thailand-judiciary-further-discredits-itself-with-harsh-lese-majesty-sentence-against-protestor/
September 6, 2009
ที่มา – Jurist (School of Law, University of Pittsburgh)
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑
ออซาร์ ธิ (สมาชิกของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเซีย ฮ่องกง)
กล่าวว่า: “เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ศาลประเทศไทยคลืบคลานเข้าใกล้ประเทศเพื่อนบ้านคู่แข่งอย่างพม่าเข้าไปทุกที
เมื่อได้มีคำวินิจฉัยให้ผู้ประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารถูกตัดสินจำคุกถึง
๑๘ ปี ศาลอาญากรุงเทพตัดสินว่าดารณี ชาญเชิงศิลปกุล กระทำผิดกฎหมายหมิ่นฯ ๓
กระทง จากคำปราศัยในการชุมนุมเพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรีทักษิณ
ชินวัตรที่ถูกปล้นอำนาจ ในคำปราศรัย ดารณีได้พาดพิงการทำรัฐประหารปี
พ.ศ.๒๕๔๙ ว่าเกี่ยวข้องกับพระราชวัง
และยังเปรียบเทียบเหตุการณ์ระหว่างประเทศไทย
และชะตากรรมของราชวงศ์ในประเทศเนปาล ซึ่งถูกโค่นล้มไปในปี พ.ศ.๒๕๕๑
หลังจากได้ถูกประชาชนทำการลุกฮือขับไล่”
ข้อกล่าวหา
ต่างๆต่อดารณีนั้นเนื่องมาจากการร้องเรียนของสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณซึ่งมีทหารให้การช่วยเหลือเมื่อปีที่แล้ว
ได้ยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลาสามเดือน ยึดสนามบินประมาณหนึ่งอาทิตย์
ทุกๆคนทั้งสนธิ และผู้ร่วมปฎิบัติการกลับไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ
จากการกระทำอันเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างรุนแรง รวมถึงการทำร้าย
และข้อกล่าวหาว่าทำฆาตกรรม
ทำลายและขโมยทรัพย์สินส่วนราชการและส่วนเอกชนอย่างยับเยิน
ในขณะที่ศาลกลับพุ่งเป้าหมายไปแต่ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้อกล่าวหาว่า
เป็นอาชญากรทางความคิดและทางคำพูด
ส่วนสนธิและพันธมิตรยังคงสำรากด้วยวาจาที่สามหาวกระจายเสียงออกอากาศ
และทางสื่ออินเตอร์เน็ตต่อไป
ผู้พิพากษา
แสร้งทำเป็นพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม ศาลปฎิเสธการขอประกันตัวถึง ๓ ครั้ง
ตามรายงานข่าวว่า เนื่องจากศาลเกรงว่า
การปล่อยตัวดารณีจะกระทบกับความรู้สึกที่อ่อนไหวของประชาชน
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขี้นภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลสั่งพิจารณาคดีแบบปิดด้วยเหตุผลในเรื่องความมั่นคงของชาติ
ด้วยเหตุผลเช่นนี้หรือ
แม้แต่ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายยังมีการพิจารณาคดีแบบเปิดเลย
มันยากที่จะพิสูจน์ว่า
การคุกคามอย่างรุนแรงที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างอดีตนักข่าววัย ๔๖
ปีนี้มันจะเป็นภัยที่ตรงไหน ถึงเธอจะมีชื่อเล่นว่า “ดา ตอร์ปิโด” ก็เถอะ
เหตุผลจริงๆที่น่าเป็นไปได้ในการปิดประตูพิจารณาคดีก็เพื่อกันผู้ต้องหา
ทำการสู้คดี จำเลยในคดีหมิ่นฯตามปกติแล้วจะยอมรับผิด ยอมรับการตัดสิน
และจากนั้นก็ทำเรื่องยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ
และได้รับการพระราชทานอภัยโทษในที่สุด ดารณีไม่ยอมทำอย่างนั้น
เธอบอกนักข่าวทั้งหลายว่า เธอจะยื่นอุทธรณ์
......
อ่านส่วนที่เหลือที่
https://liberalthai.wordpress.com/2009/09/08/thailand-judiciary-further-discredits-itself-with-harsh-lese-majesty-sentence-against-protestor/
No comments:
Post a Comment