ในการปฏิรูปประเทศมีนักวิชาการและที่ปรึกษา กล่าวว่าการสอบ กพ. ครั้งนี้เป็นการสอบจอหงวนไทย เพื่อลดการอุปถัมในหน่วยงานราชการฟังดูเหมือนดี แต่ลองย้อนกลับไป ปี คศ.หกร้อยต้นๆ ในประเทศจีนมีการสอบคัดคนทั่วประเทศเพื่อคัดสรรหัวกะทิมาทำงานในระบบ สมบูรณ์สิทธิ หรือเรียกง่ายๆว่าเอาคนเก่งมาทำงานให้ฮ่องเต้นั่นเอง อีกทั้งยังนำลัทธิขงจื้อเรื่องซือแอนซู หรือระบบคุณธรรม มาควบรวม จนได้ยินอย่างหนาหูในช่วงการเมืองที่ผ่านมา และสุดท้ายได้ถูกตอกย้ำด้วย ม.44 ที่ยกเลิกคำว่ารากหญ้า เรื่องนี้ดูเหมือนไม่มีความสำคัญแต่กลับมีความสำคัญอย่างน่าใจหายเมื่อ มีการกล่าวว่าอำมาตย์คือข้าราชการผู้รับใช้สถาบัน ส่วนประชาชนไม่มีชนชั้น มีแต่รายได้มากหรือน้อย
ทั้งหมดแสดงให้เห็นระบบการปกครองที่เปลี่ยนแปลงแบบ ปชช ไม่รู้ตัวในคำพูดชวนงวยงงว่า แบ่งแยกและปกครอง ที่แท้ไส้ในนั้นคือการเปลี่ยนระบบชนชั้นเข้าสู่ระบบ ผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง นั่นเอง ปัญหาไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะในวงการจอหงวนไทยได้มีการส่งข้าราชการระดับสูงไปเรียนวิชาบริหาร เศรฐศาสตร์มหภาค จนถึงรัฐศาสตร์ต่างประเทศเพื่อให้ชนชั้นปกครองลงทุนระบบอินฟาร์เองโดยผู้ถูกปกครองถือว่าไม่ใช่หน้าที่ เมื่อไปรวมกับรัฐธรรมนูญแบบไทยๆ จึงสรุปได้ทันทีว่าประเทศไทยเข้าสู่ระบอบสมบูรณ์สิทธ์โดยมีทหารคานอำนาจวังในอัตราส่วนที่สมดุล ในนาม สภาเปรซิเดียมโดยมีกษัตริย์เป็นประธานสภา
(ปล.ผู้ถูกปกครองนั้นมัวแต่มองสิ่งที่ผู้ปกครองกำลังหยิบยื่นให้โดยลืมมองว่ามือที่มองไม่เห็นหยิบเงินจากกระเป๋าท่านมายื่นให้ท่านผ่านรูปแบบภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งระบบส่วยอากร ที่ยังซ่อนรูปอยู่ในสังคมมาอย่างช้านาน)
No comments:
Post a Comment