*** "พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" ผบ.ตร.สลัดปากกาเซ็นคำสั่งย้าย "ตำรวจ" ซึ่งสงสัยพัวพันหรือมีส่วนรู้เห็นกับการขน "โรฮิงญา" ผ่านประเทศไทยไปประเทศที่สามแล้วกว่า 50 ราย มีทั้งตำรวจภูธร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจน้ำ ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ และตำรวจตระเวนชายแดน แต่เท่าที่เห็นรายชื่อล้วนแล้วแต่เป็น "ปลาซิวปลาสร้อย" *** ไหนๆ เหล็กกำลังร้อน "บิ๊กอ๊อด" ควรถือโอกาสกวาดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเสียที พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันมีปัญหาเรื่องค้ามนุษย์มานาน ก่อนหน้า "โรฮิงญา" ก็มีเรื่องค้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการค้า "ผู้หญิง" ผู้กระทำผิดเครือข่ายเดิมๆ เพียงแต่เปลี่ยน "สินค้า" เครือข่ายอาชญากรเหล่านี้ดำรงอยู่ได้อย่างไร หากเจ้าหน้าที่รัฐ "ไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่"
*** ขอเตือนไว้อีกเรื่องเผื่อ "บิ๊กอ๊อด" มีภารกิจมากจนอาจหลงลืมกรณี "ส่วยน้ำมันเถื่อน" พื้นที่ภาคใต้ ก่อนหน้านี้พบ "บัญชีส่วยยาวเป็นหางว่าว" ถึงวันนี้เอาผิดใครได้หรือยัง ลองถามความคืบหน้า "พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์" ผบช.ก. สืบสาวราวเรื่องไปถึงไหนแล้ว อย่าให้เป็น "ไฟไหม้ฟาง" เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนก็จบกัน *** กรณี "โรฮิงญา" ในส่วนของตำรวจเคลื่อนไหวโยกย้ายกันไปบ้างแล้ว แต่ในฝ่ายทหารยังไม่เห็นว่ามีการดำเนินการไปอย่างไรบ้างแล้ว น่านน้ำอันดามันภาคใต้ฝั่งตะวันตกมี "กองเรือภาคที่ 3" รับผิดชอบพื้นที่ ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด "เครือข่ายค้ามนุษย์" จึงใช้พื้นที่เป็นเส้นทางขน "โรฮิงญา" ได้
*** ทหารบกก็เช่นกัน พื้นที่ปลายทางที่เครือข่ายค้ามนุษย์ ตั้งค่ายพักพิงก่อนข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งอยู่ห่างจาก "ค่ายเสนาณรงค์" ซึ่งเป็นค่ายทหารแห่งใหญ่ในภาคใต้ตอนล่างไม่กี่สิบกิโลเมตร "ท่านผู้หลักผู้ใหญ่" ในค่ายแห่งนี้ "ขึ้นฮ.-ลง ฮ." บินผ่านไม่เห็นกันบ้างเลยหรืออย่างไร *** ส่วนที่ระนองต้นทาง "โรฮิงญา" ขึ้นฝั่งมี "กองกำลังเทพสตรี" ตั้งอยู่ ค่อนข้างแข็งขัน จนระยะหลังๆ "เครือข่ายค้ามนุษย์" ต้องใช้วิธีขน "โรฮิงญา" เดินทางทางเรือตรงไปยัง "สตูล" แทน แต่ก็มีบ้างที่สามารถขึ้นฝั่งที่ "ระนอง" ได้ "พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร" ผบ.ทบ. น่าลองตรวจสอบเป็นเพราะเหตุใด หากพบนิ้วไหนร้ายต้องรีบตัดทิ้ง *** ฝ่ายปกครองก็เช่นกัน "ท่านผู้ว่าฯ-ท่านนายอำเภอ" ไม่ระแคะระคายอะไรกันเลยหรือ ผู้ที่ถูกออกหมายจับมีทั้ง "ผู้นำ-นักการเมืองท้องถิ่น" มีหน้าที่การงานอยู่ในสายงานที่พวกท่านต้องควบคุมดูแลไม่ใช่หรือ "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" รมว.มหาดไทย ทำอย่างไรดี
โรฮิงยา คือเผ่าพันธุ์ ที่ถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง. เป็นชะตากรรมของเขา ที่เกิดเป็นโรฮิงยา และเป็นชะตากรรมของคนไทยที่รู้ไม่ทันกโลบายทางการเมือง ระดับภูมิภาค คนไทยต้องป้องกันตัวเอง การปฏิเสธต้องมาจากประชาชนโดยรัฐทำตามเสียงสนับสนุนของประชาชน เมื่อมีความแตกแยกกันภายใน ปัญหานี้จึงยากแก้ไข คนโรฮิงยาไม่ใช้ต้นเหตุ แต่ขบวนการสร้างภาพบิดเบือนสภาพที่เกิดขึ้นจริงเพื่อผลประโยชน์แอบแฝงในรูปแบบของการกลืนแผ่นดิน คือการใช้คนใหม่ดันคนเก่าเพื่อครองพื้นที่ ตัวอย่างข่าวของความน่าสะพรึงกลัวที่คนโรฮิงยาได้รับ ภาพชายคนหนึ่งถูกรุมตี บรรยายว่าเหตุเกิดในพม่า แต่เหตุเกิดขึ้นจริง ที่อัสสัม อินเดีย. เพจนี้ ขอเรี่ยไรเงินจากชาวมุสลิมทั้งหลาย ข่าวที่มาของภาพคือ http://maoistresistance.blogspot.com/2007/11/assam-tribal-woman-stripped-cm-orders.html
No comments:
Post a Comment